สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า แหล่งข่าวในรัฐบาลอิสราเอลเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล หลังอิหร่านปฏิบัติการยิงขีปนาวุธและโดรนชุดใหญ่ โจมตีอิสราเอล เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้เหตุการณ์โจมตีสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านในซีเรีย ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่กองกำลังปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) เสียชีวิต 7 นาย เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ ไบเดนยืนยัน การมอบความสนับสุนนอย่างเต็มที่ของสหรัฐให้แก่อิสราเอล เพื่อรับมือและเผชิญหน้ากับการคุกคามจากอิหร่าน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลวอชิงตัน “ไม่สนับสนุนและไม่ประสงค์เข้าร่วม” หากอิสราเอลต้องการโจมตีตอบโต้อิหร่าน


อนึ่ง นับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่อิหร่านโจมตีโดยตรงต่ออิสราเอล โดยรัฐบาลเตหะรานยืนยัน เป็นการใช้อำนาจตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งระบุว่า “รัฐสมาชิกมีความชอบธรรมในการป้องกันตนเองโดยรวม หากเผชิญกับการโจมตีที่เกิดขึ้นภายในขอบเขตอำนาจอธิปไตย” พร้อมทั้งเตือนว่า “สหรัฐไม่ควรเข้ามายุ่ง” และถ้ามีการตอบโต้จากอิสราเอล การโต้กลับของอิหร่านในอนาคต “จะรุนแรงมากกว่าเดิม”.

เครดิตภาพ : AFP