สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า การดำเนินการของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้อินโดนีเซีย ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 36,000 เฮกตาร์ ในจังหวัดกาลีมันตันกลาง บนเกาะบอร์เนียว ตามส่วนหนึ่งของโครงการที่ออกคาร์บอนเครดิตมากกว่า 30 ล้านเครดิต นับตั้งแต่ปี 2556

กระนั้น รัฐบาลจาการ์ตา ระบุในแถลงการณ์เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาว่า บริษัท พีที ริมบา รายา คอนเซอร์เวชัน ซึ่งเป็นผู้ถือใบอนุญาตดำเนินโครงการ มีความผิด 3 ประการ ได้แก่ การโอนใบอนุญาตให้กับบุคคลที่สาม โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวง, การดำเนินการนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต และการไม่ชำระเงินให้กับรัฐ

เมื่อพิจารณาถึงขนาดของโครงการ การดำเนินการของรัฐบาลอินโดนีเซีย จะสร้างผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการแลกเปลี่ยนคาร์บอน, ผู้ค้า และบริษัทที่ซื้อคาร์บอนเครดิตของริมบา รายา เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่อาจถูกบดบังโดยผู้เข้าร่วมจำนวนมาก และภัยคุกคามจากกฎระเบียบของรัฐบาลที่เกิดขึ้นใหม่ และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ การชดเชยคาร์บอน เป็นองค์ประกอบสำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยช่วยให้ผู้ก่อมลพิษสามารถจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของพวกเขา ด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิตจากโครงการต่าง ๆ เช่น เขตป่าสงวนในอินโดนีเซีย ซึ่งราคาเครดิต คาดว่าจะพุ่งสูงในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า และทำให้เกิดตลาดคาร์บอน ที่อาจมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 37 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2593

แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดคาร์บอนโดยสมัครใจ ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดจากการกล่าวอ้างด้านสิ่งแวดล้อมที่มากเกินไป ซึ่งเมื่อปี 2566 ผู้ขายคาร์บอนเครดิตอันดับต้น ๆ ของโลก ยุติความร่วมมือกับประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของริมบา รายา หลังมีข้อกล่าวหามานานหลายเดือนว่า บริษัทกล่าวเกินจริง ถึงผลกระทบด้านสภาพอากาศ ของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย.

เครดิตภาพ : AFP