สำนักข่าวหลายแห่งของอังกฤษเผยชื่อผู้เสียชีวิตจากเที่ยวบินเอสคิว 321 ซึ่งประสบเหตุตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงจนต้องขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิของประเทศไทย ว่าคือนายเจฟฟรีย์ ราล์ฟ คิทเชน อายุ 73 ปี เดินทางมาพร้อม ลินดา คิทเชน ภรรยาของเขาด้วยเครื่องบินโบอิง 777 ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส
แอนนา พรอคเตอร์ ลูกสาวของ คิทเชน กล่าวถึงพ่อของเธออย่างอาลัยว่าเขาเป็น สุภาพบุรุษที่อ่อนโยน ใจดีอย่างที่สุดและเป็น “ตำนาน” แม้ว่าเขาจะอายุมากแล้ว แต่เธอก็เชื่อว่าพ่อของเธอยังมีเวลาอีกหลายปีที่จะได้ใช้ชีวิต
ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) แถลงถึงกรณีการเสียชีวิตของคิทเชนว่า น่าจะเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน และกำลังรอผลจากการชันสูตรศพ
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/kitchen.jpg)
สำหรับภรรยาของคิทเชนยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในประเทศไทย แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด
กลุ่มเพื่อนของสองสามีภรรยาสกุลคิทเชนซึ่งแต่งงานกันมากว่า 50 ปี เผยว่า ทั้งคู่เดินทางออกนอกประเทศ จากบ้านเกิดในเมืองธอร์นบูรีแห่งกลอสเตอร์เชอร์ครั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พ.ค. 2567 เพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวซึ่งวางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ โดยบอกว่าเป็นการ “ท่องเที่ยวครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต”
สตีเวน คิทเชน ญาติของผู้ตายให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าครอบครัวของคิทเชนรู้สึกช็อกอย่างมากที่เขาจากไปอย่างกะทันหัน ระหว่างที่สองสามีภรรยากำลังตั้งตารอเพื่อที่จะไปเที่ยวกันในครั้งนี้
สตีเวน กล่าวว่าเจฟฟรีย์และภรรยาเป็นนักเดินทางตัวยงและชอบเดินทางท่องเที่ยวมาก พวกเขารักการผจญภัย และการเดินทางในครั้งนี้ก็คาดว่าจะเป็นการเที่ยวครั้งใหญ่เพื่อส่งท้ายชีวิตนักเดินทางของพวกเขาซึ่งต่างก็มีอายุมากแล้วทั้งคู่ โดยมีแผนการว่าจะไปเที่ยวสิงคโปร์, อินโดนีเซียและออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม เจฟฟรีย์ คิทเชนมีประวัติว่าป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่สุขภาพทั่วไปยังคงแข็งแรงดี
ด้านโกะชุนพง ซีอีโอของสายการสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของคิทเชนที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก พร้อมทั้งเสนอความช่วยเหลือทุกวิถีทางแก่ผู้โดยสารและครอบครัวที่ประสบเหตุระทึกขวัญในครั้งนี้
ที่มา : telegraph.co.uk, ladbible.com
เครดิตภาพ : British musical theatre director