เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 24 ม.ค.นี้ อาจมีวาระที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เข้าที่ประชุม ครม.ด้วยว่า ตนคิดว่าจะมีการนำร่างกฎหมายเหล่านี้เข้า​ ครม.ในวันดังกล่าว ส่วนการพิจารณาขั้นตอนต่อไป คือจะมีการประชุมร่วมของรัฐสภา ซึ่งตนได้ประสานงานกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ก่อนแล้ว ซึ่งนายชวนรับปากว่าจะรีบบรรจุวาระนี้ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพราะจะมีทั้งร่างของรัฐบาล ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล และของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยจะต้องเข้าพร้อมคราวเดียวกันทั้ง 3 ฉบับ ซึ่งเนื้อหาของแต่ละฉบับไม่ตรงกัน แต่สิ่งที่จะทำให้เรื่องนี้ล่าช้าคือ การนัดหมายประชุมร่วมรัฐสภา ตนคิดว่าการพิจารณาวาระที่ 1 น่าจะพิจารณาผิดในวันเดียว เมื่อถามว่า นายกฯ ได้มาปรึกษาอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายกฯ ไม่ได้มาหารือกฎหมายลูก  

เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์การออกกฎหมายลูก ตอนนี้ยังเป็นไปตามเดิมที่จะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ตามที่เคยระบุไว้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า กะเวลาไว้เต็มที่แบบนั้น แต่ถ้าทำได้เร็วกว่านั้นได้ก็เป็นเรื่องดี เมื่อถามว่า ในสถานการณ์ตอนนี้จำเป็นต้องเร่งทำกฎหมายให้เร่งขึ้นหรือไม่ นาวิษณุ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับที่ว่าใครยอมใครหรือไม่ ตนเคยบอกแล้วว่ากฎหมายลูก 2  ฉบับมี 3 แบบ ซึ่งเนื้อหาไม่เหมือนกันเลย และที่สำคัญคือ กกต. ยอมให้ไปแก้ร่างกฎหมายของเขาหรือไม่ ถ้าไม่ยอมก็ต้องส่งกันไปมา และมีขั้นตอนอีกยาว นอกจากนี้ ยังมีขั้นตอนหลังจากทำร่างกฎหมายเสร็จแล้วขึ้นทูลเกล้าฯ ก็มีกรอบเวลาอีก 90 วัน ซึ่งเราไม่สามารถไปคาดเดาตรงนี้ได้ ตนจึงนับให้เต็ม 90 วันคือไปถึงเดือนกรกฎาคมเลย ทั้งนี้ เรื่องการพิจารณาดังกล่าวยังเกี่ยวไปถึงวุฒิสภาด้วย เพราะต้องมาร่วมลงมติในการประชุมร่วมรัฐสภา จึงมีสิ่งที่เป็นห่วงกันอยู่คือกฎหมายลูกฉบับเก่า ได้เคยผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกภานิติบัญญัติแห่งชาต (สนช.) ซึ่งมี สนช. มาเป็น ส.ว. ตอนนี้ จึงอาจจะยังหวงของเดิม ไม่อยากให้ไปแก้ตรงนั้นก็ได้ อย่างไรก็ตามต้องอยู่ที่มติของรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุม ครม. ในวันที่ 24 ม.ค. กลับมาเป็นแบบองค์ประชุมเต็มคณะใช่หรือไม่ และแสดงว่ารัฐบาลหมดความกังวลต่อโรคโควิด-19 แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่กังวล แต่เคยหารือเมื่อประชุมครั้งที่แล้วว่า การประชุม ครม. ครั้งต่อไปน่าจะกลับมาสู่รูปแบบปกติได้ และมีรัฐมนตรีบางคนอยากให้กลับมาประชุมที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ก็ถามอยู่หลายครั้ง ซึ่งนายกฯ บอกว่าเอาทีละขั้นตอน คือให้กลับมาประชุมที่ตึกสันติไมตรีก่อนแล้วกัน