เมื่อวันที่ 26 ม.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกเดี่ยวกลางทะเล ท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง แม้สามารถควบคุมการรั่วไหลได้แล้ว แต่นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ฯ บูรณาการร่วมกับจังหวัดและบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเหตุดังกล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งขจัดคราบน้ำมันโดยเร็ว โดยใช้เฮลิคอปเตอร์โปรยสารเคมีเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด และป้องกันคราบน้ำมันไหลสู่ชายหาด โดยกำชับให้กระทรวงกลาโหม สนับสนุนกำลังพลและเรือในการแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มกำลัง พร้อมกันนี้ ยังให้ประเมินผลกระทบทางทะเล และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนในการประกอบอาชีพ เพื่อที่ประชาชนจะได้ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติ ไม่เกิดความตื่นตระหนกจากสถานการณ์

“สำหรับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงขอให้รับฟังการแจ้งเตือนจากหน่วยราชการอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้สามารถควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันได้แล้ว และกำลังเร่งขจัดคราบน้ำมันในทะเล ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งมือทุกด้านเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

พล.ร.ท. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ (ทร.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลของ บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) มีน้ำมันดิบ รั่วไหล จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบ กลางทะเล บริเวณละติจูด 12 องศา 29.3 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 101 องศา 11.76 ลิปดาตะวันออก ในพื้นที่นิคม อุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งทางบริษัท แจ้งว่าสามารถควบคุมและหยุด การรั่วไหลได้แล้วเวลา 00.18 น. ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ทั้ง ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กรมควบคุมมลพิษ รวมถึง ทร. ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในขณะนี้ กองทัพเรือ ได้สั่งการให้ ทัพเรือภาคที่ 1 ส่ง เครื่องบินลาดตะเวน ขึ้นบินสำรวจคราบน้ำมันทางอากาศ และจัด เรือ ต. 273 กับเรือ ต.228ออกตรวจสอบ คราบน้ำมันบนผิวน้ำนอกจากนั้นได้จัด เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ขึ้นบินตรวจสอบทิศทางการรั่วไหลของคราบน้ำมัน รวมถึงนำสารเคมีDASIC international SLICKGONE ขึ้นไปโปรยบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ หน้าท่าเรือมาบตาพุดนอกจากนั้นยังได้เตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์พร้อมในการสนับสนุนหน่วยต่างๆ ในการขจัดคราบน้ำมัน รวมถึงในขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์ควบคุมปฏิบัติในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 แล้ว (ศคปน.ทรภ.1) สำหรับในส่วนของการประเมินสถานการณ์ นั้น ขอให้ติดตามข่าวสารจาก กรมควบคุมมลพิษ ต่อไป

พล.ร.ท. ปกครอง กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งยืนยันว่ากองทัพเรือมีความพร้อมทั้งยุทโธปกรณ์และกำลังพลในการรับมือต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจัดให้มีการฝึกการขจัดคราบน้ำมันร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นประจำ และในส่วนของยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ ทร.จัดเตรียม ก็สามารถนำมาปรับใช้กับ ภารกิจในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี.