สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ว่า บริษัทวูดไซด์ ปิโตรเลียม หนึ่งในผู้สำรวจและผลิตพลังงานรายใหญ่ระดับโลกจากออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ในสัปดาห์นี้ เตรียมยุติภารกิจทั้งหมดในเมียนมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ยอมรับว่ าการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลต่อกำไรของบริษัท


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของวูดไซด์ ปิโตรเลียม ซึ่งดำเนินกิจการในเมียนมานานเกือบ 10 ปี และมีโครงการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ 3 แห่งตามแนวชายฝั่งของประเทศ เกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์ หลังบริษัท “โททาล เอเนอร์จีส์” ของฝรั่งเศส และ “เชฟรอน” ของสหรัฐ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตด้านพลังงานรายใหญ่อันดับต้นของโลก ประกาศยุติปฏิบัติการดำเนินงานในเมียนมา โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองและสิทธิมนุษยชนในเมียนมา “ที่ทรุดโทรมอย่างหนักและยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้น” นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร


ขณะที่กระทรวงการคลังของสหรัฐ “เตือนภัย” ว่าการทำธุรกิจในเมียนมา “มีความเสี่ยงสูง” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นการลงทุนในธุรกิจที่กองทัพเมียนมามีความเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอัญมณีและหินมีค่าทุกประเภท อสังหาริมทรัพย์ โครงการก่อสร้าง พลังงาน การซื้อขายอาวุธและกิจกรรมทางทหารที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็น “แหล่งรายได้หลัก” ของกองทัพเมียนมา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES