เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว “ทนายวันชัย” ระบุว่า ปฏิทินการเมืองกับปฏิทินดวงเมือง ช่างสอดรับกันจริงๆ เลือดจะไปลมจะมาตามประสาของดาวเกตุที่มีอิทธิพลต่อการสร้างความลับลมคมในสับสนอลหม่าน มีผลให้เกิดความไม่ปกติกับบ้านเมืองในทุกๆด้านเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว สภาล่มซ้ำซากถามว่าแล้วรัฐบาลจะล่มไหม ก็ในเมื่อรัฐบาลเป็นเสียงข้างมากแต่เสียงข้างมากล่มแล้วล่มอีก ก็เป็นคำตอบอยู่ในตัวแล้วว่าชะตาชีวิตใกล้จะขาดเต็มที ในช่วงนี้ก็ยังพอประคับประคองกันไปได้แบบสะบักสะบอม พอกลางปีจะกระพือโหมรุนแรงยิ่งขึ้น จะไปหรือไม่ไปก็อยู่ในช่วงนั้นแหละ

นายวันชัย ระบุต่อว่า ปฏิทินการเมืองกับปฏิทินดวงเมืองเดินคู่ขนานกันมาอย่างน่าอัศจรรย์ วันที่ 7 ก.ค. 65 ดาวมฤตยูย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ จะสร้างแรงสั่นสะเทือนหวั่นไหวอย่างรุนแรงทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองทั้งก่อนและหลังวันเคลื่อนย้ายของดวงดาว  ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย พอปลายเดือนพฤษภาคมสภาเปิด ทีนี้แหละทั้งการเมืองและดวงเมืองอีนุงตุงนังกันไปหมด ดาวสำคัญ ๆ ขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวปะทะกันแรงทั้งภายนอกและภายใน และก็มีเรื่องใหญ่ ๆ ในสภาถึงขั้นแตกหัก จะอยู่หรือไปก็อยู่ในช่วงนั้นเหมาะเจาะกับการโคจรของดวงดาวพอดี ต้นเดือน มิ.ย.65 พ.ร.บ.งบประมาณจะเข้าสภา นี่ก็เรื่องใหญ่ถ้าไม่ผ่านรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้แล้วก็จะตามมาด้วยอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้ายื่นเมื่อไร รธน.ห้ามยุบสภา ขืนให้ยื่นก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายหนักเข้าไปอีกและก็เคยมีบทเรียนที่เจ็บปวดมาแล้ว ใครจะยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบเก่าล่ะก็ยุบเสียก่อนไม่ดีกว่ารึ นอกจากนี้ญัตติแก้ไข รธน.ห้าม ส.ว.โหวตนายกรัฐมนตรีก็จะจ่อคอหอยตามเข้ามา นี่ก็เรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งของทั้งสภาล่างและสภาบน พรรคร่วมรัฐบาลก็จะปั่นป่วนคงจะไม่แทงกั๊กแบบเก่าแน่นอนจะถอนตัวหรือไม่ถอนตัวแตกหักกันก็ตอนนี้ เวลาอยู่กับอำนาจมันน้อยเต็มที

“เห็นไหมมันเรื่่องคอขาดบาดตายทั้งนั้น ตามปฏิทินการเมืองเป็นการแสดงฤทธิ์แสดงเดชของดาวมฤตยู เป็นเรื่องความเป็นความตายซึ่งจะเกิดขึ้นในเวลานั้น ประกอบกับปฏิทินการเมืองอย่างที่ว่ามานั้นแต่ละเรื่องมันสาหัสสากรรจ์ สัญญาณต่าง ๆ ที่ให้เห็นและอาการที่ปรากฏในขณะนี้มันชี้อนาคต กรรมเป็นตัวกำหนดไม่มีใครลิขิตได้ ใครจะอยู่ใครจะไปหรือใครจะมาก็เป็นกรรมของแต่ละคน” นายวันชัย  ระบุ.