เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่พรรคก้าวไกล พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะผู้ทำคดีขบวนการค้าชาวโรฮีนจา เมื่อปี 57 กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลได้มีการอภิปรายกรณีปัญหาการค้ามนุษย์ ขบวนการลักลอบขนชาวโรฮีนจา เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าวันนี้เป็นวันแรกที่ตนได้มาพูดความในใจ หลังจากต้องลี้ภัยเป็นเวลา 6 ปี 3 เดือน 3 วัน จึงมีความสุขที่จะได้พูดถึงสิ่งที่ค้างคาใจ ที่สร้างความทุกข์ ระทมขมขื่น เครียด กลัว บั่นทอนจิตใจ จากการทำหน้าที่แล้วถูกกลั่นแกล้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รัฐบาล ผู้มีอำนาจ ยืนยันว่าเรื่องที่พรรคก้าวไกลออกมาเปิดเผยเป็นเรื่องจริง ตนไม่ได้สร้างเรื่องเพื่อขอลี้ภัยแต่อย่างใด ปัจจุบันต้องใช้ชีวิตแบบผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ วันนี้รู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรมกลับมาครึ่งหนึ่งแล้ว แต่อีกครึ่งยังขาดหายไป

“แน่นอนว่า ผมยังอยากกลับประเทศไทยเพราะเป็นบ้านเกิด ผมยังมีบุคคลที่รักที่ยังอยู่ที่นั่น” พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวในขณะที่พยายามกลั้นน้ำตา


ทั้งนี้ตนเสียดาย ถ้าวันนั้นประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มีรัฐบาลตรงไปตรงมา มีนายกฯ และผู้บริหารทุกระบบที่ทำให้ประเทศไทยใสสะอาด ซื่อสัตย์ มีความกล้าหาญให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างเที่ยงตรงเหมือนนานาอารยประเทศ และปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปสุดทาง ชีวิตราชการของตนที่เหลือ 3 ปี ความสามารถและประสบการณ์ในการสืบสวนสอบสวน มั่นใจว่าจะสามารถสาวไปถึงปลาตัวใหญ่ได้อีกหลายตัว ใหญ่แค่ไหนขอให้คิดกันเอาเอง จากการอภิปรายเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอฝากถึงผู้นำประเทศปัจจุบัน แต่ขอฝากถึงเพื่อนตำรวจที่อาจจะประสบเรื่องเลวร้าย อาจจะมากกว่ายุคของตน ก็ขอให้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง หรือผู้มีอำนาจ พยานหลักฐานได้มาอย่างตรงไปตรงมา และดำเนินการตามกระบวนการพนักงานสอบสวน อัยการ ศาล หากไม่ทำสิ่งนี้ประชาชนจะเสื่อมศรัทธา ทำลายตัวเอง ทำลายประเทศชาติ  
 
ทางด้าน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังอภิปรายเรื่องนี้มีหลายคนโทรฯ เข้ามาแสดงความห่วงใยและขอให้ระวังตัว แต่ตนขอทำเรื่องนี้ต่อ เพื่อแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ปกป้องตำรวจน้ำดี ย้ำว่ามีการส่งเอกสารล่วงหน้า มีเวลาเตรียมตัว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบ ตนทวงถามแต่ถูกเชิญออกจากห้องประชุม แต่ตนไม่ได้กลับบ้าน ยังรอคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จนถึงตีสาม แต่ไม่ได้รับคำตอบ เข้าใจว่าคำถามอาจจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สบายใจ ทั้งนี้หลังฟั งพล.ต.ต.ปวีณ เล่าแล้วสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดใน 6 ปีที่ผ่านมา ยืนยันเรื่องนี้จะไม่เงียบอีกต่อไป ตนและพรรคก้าวไกลจะเดินหน้าทวงถามความยุติธรรมที่ถูกพรากไป ใช้เอกสารหลักฐานที่ พล.ต.ต.ปวีณ รวบรวมไว้กว่า 2.7 แสนหน้า ในการทลายขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป เพราะไม่ได้กัดกินแค่เหยื่อ แต่กัดกินระบบราชการ คนดีไม่มีที่ยืน   
 

ทั้งนี้ กรณีของ พล.ต.ต.ปวีณ ชี้ให้เห็นว่าไทยมาอยู่ในสังคมวิกฤติ ถึงไม่โกงกิน ไม่คอร์รัปชั่นก็ยังอยู่ไม่ได้ ดังนั้นอยู่ในจุดที่เราต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าสังคมอย่างไร ภายใต้รัฐบาลนี้ ในฐานะของพรรคก้าวไกล เราไม่เชื่อมั่นอีกแล้ว แต่การเลือกตั้งยังไม่มาถึง ความเปลี่ยนแปลงยังไม่มาถึง ก็ต้องใช้ทุกโอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลงกทุกระดับให้มากที่สุด และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ยืนยันพรรคก้าวไกลอยากเห็น พล.ต.ต.ปวีณ กลับมาอย่างปลอดภัย อยากเห็นการขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงคนในรัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วม และอยากให้มีการตั้งคำถามถึง พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และอดีต ผบ.ทบ. น่าจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้