เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่รัฐสภา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง M-Flow ระบบผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น ว่า การประกาศนโยบายที่มีผลกระทบกับประะชาชน ต้องค่อยเป็นค่อยไปทั้งการทดสอบระบบ หรือการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน ตนมองว่าปัญหาของระบบนี้ยังไม่มีฐานผู้ใช้งานจริง เพราะปัจจุบันฐานผู้ใช้งานแบ่งออกเป็น ผู้ใช้ระบบเงินสด และผู้ใช้ระบบอัตโนมัติ ดังนั้นต้องดึงฐานผู้ใช้งานระบบ M-Pass และระบบ Easy Pass มาใช้ระบบ M-Flow แทน ส่วนเรื่องหลังบ้านสามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี หากยังแยกระบบ M-Flow ออกมาเป็นอีกกลุ่ม ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดหน้าด่านได้ ดังนั้นการออกแบบที่ไม่สมดุลทำให้รถต่อคิวยาวขึ้นมากถึง 3 เท่าตัว 

เมื่อถามว่า ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าระบบ M-Flow ที่นำมาใช้ดี แต่ตัวนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และการบริหารจัดการไม่ดี นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ระบบ M-Flow เป็นระบบที่ดีที่รถยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ทันที เพิ่มความสามารถในการระบายรถยนต์ได้ 2,000-2,200 คันต่อชั่วโมงต่อช่องจราจร แต่ระบบบเงินสดมีความสามารถในการระบายรถยนต์ได้ 350-450 คันต่อชั่งโมงต่อช่องจราจร ขณะที่ระบบ M-Pass และระบบ Easy Pass เพิ่มความสามารถในการระบายรถยนต์ได้ 800-1,200 คันต่อชั่งโมงต่อช่องจราจร ดังนั้นระบบ M-Flow สมควรที่จะดำเนินการ แต่จะทำอย่างไรอันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ 

“ที่ผมบอกว่ารัฐมนตรีห่วย เพราะว่ามันไม่ได้ถูกวางแผนมาให้ดี ทุกครั้งเมื่อถามคนทำงานก็ทราบว่าเอาแต่จะเร่ง ๆ โดยไม่ได้สนใจใส่ใจรายละเอียด เรื่องฐานผู้ใช้งานเป็นเรื่องสำคัญมาก ทั้งระบบเงินสด ระบบ M-Pass และระบบ Easy Pass ตกลงเราจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มจริง ๆ หรือ มันมีปัญหาแน่นอน ปัญหาด้านเทคนิคทุกคนก็รู้ว่ามันควรมีแค่สองกลุ่ม แทนที่จะทดสอบอย่างค่อยเป็นค่อยไปว่าแบบไหนมันดีกว่ากัน ถ้ารัฐมนตรีไม่เข้าใจเนื้อหาเทคโนโลยี แต่พยายามจะเร่งเอาให้เสร็จ เอาให้ได้ ฉันอยากจะตัดริบบิ้นแล้ว มันก็เละอย่างที่ว่า คนที่เดือดร้อนก็คือประชาชน” นายสุรเชษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ค่าปรับ 10 เท่าของระบบ M-Flow มันโหดไปหรือไม่ นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า มันโหดแน่นอน แต่ว่าประเทศอื่น ๆ ก็ทำในลักษณะนี้ ทั้งค่าปรับและการฝ่าฝืน ดังนั้นจึงต้องมีการประชาสัมพันธ์และให้ทดลองใช้ก่อน 

เมื่อถามย้ำว่า ล่าสุดที่มีการชะลอจ่ายค่าปรับออกไปถึง 31 มี.ค.นี้ จะแก้ไขปัญหานี้ได้หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจระบบนี้ นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก็เป็นการซื้อเวลาออกไป และเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อทำระบบแล้วผิดพลาด พอผิดพลาดก็ดีเลย์ปัญหาออกไปอีก 30 วัน แต่ช่วงเวลานี้ต้องกลับไปคิดดี ๆ เพราะว่ามันจะมีประโยชน์กับประชาชน.