เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ความคืบหน้ากรณีหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สนธิกำลัง 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 55 หมู่ 3 บ้านเขาดิน ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี หลังสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกับคนร้ายอย่างดุเดือดยืดเยื้อนานกว่า 6 ชม. เป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดศพคนร้ายทั้ง 2 ราย หลังเจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือที่ รพ.ทุ่งยางแดง ทราบชื่อ รายแรกคือ นายอาดีนันท์ ซือรี อายุ 28 ปี รายที่สองคือ นายซาการียา ยูโซะ อายุ 29 ปี ทั้งสองเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมาย พ.ร.ก. จำนวน 1 หมาย กรณีร่วมก่อเหตุทำลายกล้องวงจรปิดในพื้นที่ ต.ตะโละแมะนา อ.ทุ่งยางแดง เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยสภาพศพทั้งสองมีบาดแผลจากกระสุนปืนขณะปะทะเข้าลำตัวหลายแห่ง นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึดอาวุธปืน ขนาด .38 และขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำศพไปตรวจพิสูจน์หาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป

ขณะที่เช้าวันนี้ครอบครัวญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายเดินทางมารับศพและนำไปประกอบพิธีฝังศพทางศาสนาอิสลาม โดยได้ฝังศพ 2 คนร้ายที่สุสาน ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งได้มีชาวบ้านและญาติพี่น้องร่วมฝังศพเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางความความโศกเศร้าเสียใจ

อย่างไรก็ตามที่เกิดเหตุยังคงมีการตรึงกำลังในพื้นที่ ประกอบกับได้นำเชือกมาขึงไว้ กั้นไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปจุดเกิดเหตุเพื่อรอตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้หน่วยความมั่นคงได้กำชับไปยังด่านทุกด่านในจังหวัดปัตตานีให้มีการตรวจบุคคล รถจักรยานยนต์ รถยนต์ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะให้มีการคุมเข้มสถานที่ราชการ แหล่งชุมชนต่าง ๆ และเพิ่มความปลอดภัยพื้นที่เสี่ยง เส้นทางต่างๆ เพื่อป้องกันกลุ่มก่อความไม่สงบออกมาก่อกวนและตอบโต้เพื่อแก้แค้นและสร้างสถานการณ์

พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ได้กำชับให้หน่วยดำเนินการตามลำดับใช้การเจรจาเป็นหลัก ในทุกขั้นตอนให้ปฏิบัติตามหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด แต่กลุ่มคนร้ายกลับใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อนจึงจำเป็นต้องตอบโต้เป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิตดังกล่าว จึงขอความร่วมมือมายังประชาชนในพื้นที่หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหว ก็สามารถโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร. 06-1173-2999 และเบอร์สายด่วน 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอความร่วมมือกับประชาชนอย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดทั้งการให้ที่พักพิง เก็บซ่อนอาวุธ หรือจัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ