สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่าทางการภูมิภาคเปนีเปอร์เปตรอฟสก์ สถานที่ตั้งของเมืองนีเปอร์ เมืองใหญ่อันดับ 4 ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของยูเครน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 11 คน จากปฏิบัติการโจมตีทางทหารข้ามคืน


ขณะที่ทางการภูมิภาคซาโปริชเชียซึ่งอยู่ใกล้กัน รายงานการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย หลังกองทัพรัสเซียยืงจรวดโจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ ภูมิภาคดังกล่าวเป็นสถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซาโปริชเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของยูเครน และในยุโรป อีกทั้งอยู่ในกลุ่ม 10 อันดับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงต้นของสงคราม

อาคารหลังหนึ่งในเมืองมาร์ฮาเน็ตส์ ของภูมิภาคเปนีเปอร์เปตรอฟสก์ ได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางทหาร


อย่างไรก็ตาม ยูเครนและรัสเซียยังคงกล่าวหากันไปมา เกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ ซึ่งมีเตาปฏิกรณ์ 6 ตัว ด้านทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) แสดงความวิตกกังวลอย่างหนัก ด้วยความหวั่นเกรงว่าจะเกิด “หายนะนิวเคลียร์” ซ้ำรอยวิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล เมื่อปี 2529


ทั้งนี้ บรรยากาศตึงเครียดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซาโปริชเชีย และพื้นที่ใกล้เคียง เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังเหตุระเบิดภายในฐานทัพอากาศซากี ใกล้กับเมืองโนโวเฟโดริฟกา ทางตะวันตกของคาบสมุทรไครเมีย นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย


อนึ่ง เมืองโนโวเฟโดริฟกาซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของฐานทัพซากี อยู่ห่างจากเมืองเซวาสโตโพล สถานที่ตั้งของกองเรือทะเลดำรัสเซีย เพียง 50 กิโลเมตรเท่านั้น และไม่เคยเกิดความรุนแรงทางทหารมาก่อน นับตั้งแต่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียปะทุ.

เครดิตภาพ : REUTERS