สวัสดีวันหยุดกับ อ้วนซ่า แอบซิ่ง อีกเช่นเคย เชื่อว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาหลาย ๆ คนคงจะได้หยุดยาวแถมอากาศก็เย็นสบาย เรียกได้ว่าเป็นการชาร์จพลังให้กลับมาทำงานอย่างสดชื่นกระปรี้กระเปร่าได้อย่างสุดยอดจริง ๆ เรื่องราวของเราในวันนี้เป็นของระบบพวงมาลัยแบบใหม่ที่เป็นออพชั่น ของรถเลกซัส ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด คือ เลกซัส อาร์แซด 450 อี (LexusRZ 450e) ที่ทางเลกซัสเค้าเรียกว่า พวงมาลัยระบบ “วัน โมชั่น กริป” (One Motion Grip Steering System) ซึ่งเป็นระบบที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของระบบพวงมาลัยที่ตัดการเชื่อมต่อทาง “กลไก” ระหว่างพวงมาลัยกับชุดบังคับเลี้ยวล้อหน้าและแทนที่ด้วยการสั่งงานให้เกิดการเลี้ยวรถด้วย “สัญญาณไฟฟ้า” แทนหรือที่บางคนเรียกว่าระบบสเตียร์-บาย-ไวร์ (Steer-by-Wire) นั่นเอง

ถึงจุดนี้หลาย ๆ คนอาจจะเกิดความสงสัยว่ามันจะ “ปลอดภัย” เพียงพอสำหรับการใช้งานจริงหรือ? ก็ต้องบอกว่าระบบนี้ถูกนำมาใช้กับยานพาหนะอย่างเครื่องบินมาช้านานแล้ว และระบบต่าง ๆของรถยนต์ที่เคยใช้การเชื่อมต่อด้วยกลไก หรือแรงดันไฮดรอลิกก็ถูกแทนที่ด้วยสัญญาณไฟฟ้ามาช้านานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ระบบคันเร่งไฟฟ้า ระบบเบรกไฟฟ้าและเกียร์ไฟฟ้านั่นเอง เรียกได้ว่าระบบบังคับเลี้ยวคือสิ่งสุดท้ายที่เข้ามาแทนที่ระบบกลไกนั่นเอง

แน่นอนว่าวิศวกรนั้นบรรลุเรื่องศาสตร์ของการใช้ระบบไฟฟ้ามาแทนที่ กลไกมานานนับปีแล้วเหลือเพียงแค่การทำให้หน่วยงานของรัฐ ยอมรับว่าระบบต่าง ๆ นี้มีความปลอดภัยเพียงเท่านั้นซึ่งในปัจจุบันนั้นก็เหมือนกับว่าค่อย ๆ ทยอยอนุญาตให้ใช้ระบบนี้กันอย่างต่อเนื่องในนานาชาติแล้วเช่นกัน โดยรถยนต์แบบโปรดักชั่นที่ได้รับการติดตั้งระบบนี้เป็นรุ่นแรกก็คือ รถยนต์ จากนิสสัน รุ่นอินฟินิติ คิว50 แต่เสียงตอบรับจากผู้ได้สัมผัสนั้นไม่ใคร่จะดีนัก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการปรับแต่งระบบตอบสนอง อาจจะไม่ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติเพียงพอนั่นเอง เปรียบเทียบได้อาจจะคล้ายกับพวงมาลัยในวิดีโอเกม ที่สร้างสัมผัสหลอก ๆ ให้กับผู้ขับขี่

แต่ถึงหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เชื่อถือในระบบนี้นักแต่ในปี 2020 ในการแข่งรถยนต์ 24 ชั่วโมงที่สนามแข่งนูร์เบอร์กริง (24 Hours of Nurburgring) รถแข่งของปอร์เช่ รุ่นเคย์แมน จีที4 (Porsche Cayman GT4) ที่ทำการทดลองติดตั้งระบบพวงมาลัยที่เชื่อมต่อด้วยไฟฟ้าสามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ในคลาสของมันได้ซึ่งก็นับว่าทำงานได้ดีทีเดียว

กลับมาที่รถของเราบ้างอะไรคือจุดเด่นของระบบพวงมาลัยของเลกซัสคันนี้ ที่เห็นชัด ๆ นอกจากมันจะออกแบบให้มีรูปทรงแตกต่างจากพวงมาลัยทรงกลมโดยเปลี่ยนโฉมมาเป็นทรงเหลี่ยมซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเห็นครั้งแรกก็จะต้องสงสัยว่าในการใช้งานจริงจะหมุนได้สะดวก

หรือคำตอบของวิศวกรก็คือพวกเขาได้ออกแบบให้มันสามารถปรับองศาการหมุนให้เหมาะสมกับความเร็วรถได้อย่างอัจฉริยะ นั่นก็คือพวงมาลัยแบบใหม่นี้ จะไม่ต้องหมุนเกิน 150 องศาเลย! โดยที่ความเร็วต่ำมันจะหมุนน้อยที่ความเร็วสูงจะต้องหมุนมากขึ้น แต่ที่แน่ ๆ คือการต้องสาวพวงมาลัยหลาย ๆ รอบจะกลายเป็นเพียงอดีตไปในทันที

เรียกได้ว่างานนี้อ้วนซ่า อยากจะมีโอกาสได้ลองสัมผัสจริง ๆ นะขอรับว่า รสชาติแห่งอนาคตนั้นจะหวานหอมดังที่เขากล่าวอ้างเพียงใด!.