กรณีนายอธิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ก่อเหตุแทงนายวทันยู (สงวนนามสกุล) แฟนใหม่อดีตภรรยาเสียชีวิต หน้าบ้านในหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 85 ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.หลักสอง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่สน.หลักสอง พบว่า นายอธิพงษ์ ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาหลังก่อเหตุได้ไม่นาน โดยมีญาติๆ เพื่อนๆมาให้กำลังใจอยู่หน้า สน.หลักสอง

หึงโหด! อดีตสามีมารับลูกเจอกิ๊กใหม่ภรรยา ชวนทะเลาะมีดแทงร่างพรุน

ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน น.ส.เอ๊ะ (สงวนชื่อและสกุลจริง) อดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ และแฟนใหม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ชนวนเหตุเกิดมาจากที่ นายอธิพงษ์ ไม่พึงพอใจที่ตนนำบุตรชายมาเลี้ยงที่บ้านโดยมีผู้ตายแฟนใหม่อยู่ร่วมด้วย นอกจากนี้ทั้งคู่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงแม้แต่อย่างใด เพราะไม่เคยเจอหน้ากัน ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนรุ่นพี่ จึงไม่ได้ชาร์จแบตโทรศัพท์เป็นเหตุให้ทั้งสามีเก่าและแฟนใหม่ ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งผู้ตายขับรถจากบ้านเกิดใน จ.นครสวรรค์ เพื่อมาตามหาตนเพราะเป็นห่วง โดยมาถึงบ้านเกิดเหตุช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 7 พ.ค. ส่วนอดีตสามีเดินทางมาหาช่วงเที่ยงวันเพื่อติดต่อเรื่องธุรกิจและคุยเรื่องบุตรชาย ซึ่งก่อนหน้านั้นอดีตสามีได้แชตคุยกับตนให้เลือกว่าจะให้แฟนใหม่กลับไปหรือจะให้ลูกนอน เพราะไม่พอใจหากแฟนใหม่อยู่ด้วยกับลูก หากแฟนใหม่ยังอยู่จะเข้าไปรับบุตรกลับบ้าน แต่เมื่ออดีตสามีตนมาถึงที่หมายอยู่ๆก็กลับไป

“เมื่อตกลงกันไม่ได้นายอธิพงษ์ จึงขับรถมายังบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้งช่วงเย็นเพื่อมารับลูกกลับ เมื่อสามีเก่าขึ้นรถพร้อมบุตร อยู่ๆเร่งเครื่องยนต์ทำทีคล้ายจะชนรถกระบะตนที่จอดหน้าบ้าน ทำให้แฟนใหม่ตะโกนต่อว่าไปจนทั้งคู่ทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งระหว่างนั้นตนพยายามเข้าไปห้ามปราม กระทั่งแฟนใหม่เริ่มอ่อนแรงจากการถูกแทงทำให้เกาะรถและค่อยฟุบนอนแน่นิ่งราบไปกับพื้นโดยมีเลือดพุ่งไหลนองทั่วร่างกาย หลังเกิดเหตุอดีตสามีตนตั้งสติได้ยังให้การช่วยเหลือแฟนใหม่ตน โดยถอดเสื้อมาอุดที่บริเวณลำคอซึ่งเป็นบาดแผลของผู้ตาย พร้อมพูดว่า “มึงไม่น่าวิ่งออกมา” พร้อมให้การช่วยเหลือและรอจนกว่ารถมูลนิธิฯเข้ามา ก่อนกลับไปบ้านพักา สำหรับประเด็นเรื่องกล้องวงจรปิด ที่หันลงพื้นนั้นขอยืนยันว่า ไม่ได้เตรียมการเพื่อช่วยเหลือใคร แท้จริงนั้นกล้องเสียนานแล้วและกล้องค่อยๆชำรุดตกลงมาหันกลับด้านเอง ส่วนอาวุธมีดที่อดีตสามีใช้ก่อเหตุคาดว่าเป็นอุปกรณ์ในการทำงานที่มีติดไว้อยู่ในรถอยู่แล้วก่อนเกิดบันดาลโทสะจนขาดสติและนำมาใช้ก่อเหตุดังกล่าว” น.ส.เอ๊ะ กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 เปิดเผยว่า ตัวผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามอบตัวแล้วโดยมีมารดาเป็นผู้พามาพบกับพนักงานสอบสวน สาเหตุเกิดจากการมีปากเสียงเรื่องครอบครัวจนเป็นเหตุฆ่ากันตาย ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีร้ายแรงจะส่งฝากขังศาลอาญาธนบุรีต่อไป.