นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม หงายไพ่กลางวง เตรียมหอบรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ เข้าร่วมเวที เสวนา Better Thailand Open Dialogue “ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ระหว่างวันที่ 19-20 พ.ค. ที่สยามพารากอน มีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์

แม้งานนี้อ้างเจ้าภาพหลักคือ คณะผู้จัดงาน Better Thailand ที่ประกอบด้วย คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย

แต่ทั้งหมดทั้งมวล จิ๊กซอว์ตัวแรกมันเริ่มมาจาก บทสัมภาษณ์ก่อนช่วงสงกรานต์ที่ พล..ประยุทธ์ เปิดเผยสั่งให้จัดเวทีเสวนาของรัฐบาล เพื่อให้รัฐมนตรีกระทรวงเกี่ยวข้องชี้แจงข้อสงสัยประเด็นต่างๆ รวมถึงรับฟังเสียงสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน

“อยากคุยกับประชาชนในนามของรัฐบาล และหลายฝ่ายทั้งภาคเอกชน ภาคธุรกิจ อยากจะรู้ อยากสอบถามในเรื่องนี้ รัฐบาลจึงเปิดเวทีให้และจัดคนไปชี้แจง รับฟังปัญหานำไปสู่วิธีการแก้ไข ส่วนรูปแบบในการจัดเวทีเสวนานั้น จะใช้สถานที่ภายนอกที่ไม่ใช่สถานที่ราชการ” พล.อ.ประประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์วันที่ 19 เม.ย.

หากมองใน มิติการเมืองการที่ พล..ประยุทธ์หอบคณะรัฐมนตรี ร่วมงานเสวนาครั้งนี้ก้ำกึ่ง ระหว่าง (1) การใช้เวลาราชการบริหารราชการแผ่นดิน หรือ (2) หวังเป้าประสงค์ทางการเมือง

อย่าลืมว่าการจัดงานครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 พ.ค. ก่อนถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ไม่ถึง 48 ชั่วโมง

เนื้อหาที่ พล..ประยุทธ์ พร้อมคณะเตรียมชี้แจงบนเวทีตลอด 2 วันเต็มคือตัวแปรสำคัญที่อาจ สร้างความได้เปรียบเสียเปรียบ ในช่วงโค้งสุดท้ายในศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

ย้อนไปก่อนหน้านี้วันที่ 30 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ บอกใบ้สเปกผู้ว่าฯ กทม. กับผู้สื่อข่าวต้องเลือกนักปฏิบัติที่ทำงานได้จริง มีผลงานปรากฏ และต้องใช้สติ ปัญญา ในการใคร่ครวญ คนที่จะเข้ามารับ หน้าที่เป็นคนที่มีคุณภาพ เป็นแบบอย่างกับสังคม หรือเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีหรือไม่

ต่อมาวันที่ 31 มี.ค. หลังจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สมัยที่สอง พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการเยี่ยมชม “คลองโอ่งอ่าง” ที่ได้รับรางวัล ต้นแบบในการปรับปรุงภูมิทัศน์ในเขตเมืองของเอเชีย ประจำปี ค.ศ 2020 ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดงในยุค พล.ต.อ.อัศวิน ที่ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. จากอำนาจ มาตรา 44 ช่วงปี 2559

นาทีนี้ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองต้องไม่ลืม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 34 วางกฎเหล็กห้ามข้าราชการการเมืองที่ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี, รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรี, ส.ส., ส.ว.ฯ ดำเนินการใดๆ ที่เป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัคร

เพื่ออุดช่องวาง การใช้อำนาจรัฐเข้าไปช่วยหาเสียง ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

หากฝ่าฝืนมาตรา 34 ที่โยงกับระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ข้อ 18 ที่ออกตามมาตรา 66 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 129 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

นาทีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมหงายไพ่ไม้ตาย บนเวทีในงาน Better Thailand Open Dialogue “ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ก่อนเปิดคูหาเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. วันที่ 22 พ.ค.!

ขุนไพร พิเคราะห์การเมือง