เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้อภิปรายเปิดเผยเรื่องที่ กองทัพบกทำสัญญาจ้างมูลค่ารวม 7,570,000 บาท ให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (สวทช.) ไปตรวจสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดจีที 200 (GT200) จำนวน 757 เครื่อง จนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแถลงชี้แจง ว่าหลังจากได้ฟังโฆษกอัยการสูงสุด ชี้แจงว่าคดีมันสิ้นกระแสความแล้ว และแจ้งผลให้กองทัพบกทราบตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.64 แล้ว และไม่มีความจำเป็นต้องไปตรวจอะไรอีกนั้น ตนมองว่าเป็นที่สรุปแล้วว่าที่โฆษกกระทรวงกลาโหมชี้แจง เป็นเรื่องโกหกเลย เพราะสำนักงานอัยการสูงสุดเขาแนะนำไป เพิ่งจะมาตั้งงบฯ อะไรปี 65 ถ้าจะบอกว่าเป็นงบฯค้างท่อ ก็ไม่ใช่ เพราะไม่ได้อยู่ในเอกสารงบประมาณ ถ้าเอาผลตรวจไปสู้คดีไม่มีใครว่า แต่นี่แอบทำอย่างนี้ คือโกหกชัดเจนหรือไม่ ในความเป็นจริงแล้ว เวลาเรื่องขึ้นถึงศาลปกครองสูงสุด มันยื่นหลักฐานไม่ได้แล้ว หลักฐานมันจบตั้งแต่ที่ศาลปกครองกลางแล้ว จะยื่นอะไรอีก นี่มันโกหกชัดเจน ยิ่งอัยการสูงสุด ออกมาบอกว่า เขาถอนอุทธรณ์ไปแล้วด้วย ยิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่ว่า กลาโหมโกหกประชาชน

ถามว่าในขณะที่เรามาวุ่นกับ สวทช. วุ่นเรื่องกลาโหม และอัยการสูงสุด ที่โยนกันไปกันมา คนที่ต้องรับผิดชอบ คือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เป็นทั้งนายกฯ เป็นทั้งผู้กำกับดูแลกระทรวงกลาโหมด้วย ท่านทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ออกมาชี้แจง ทำไมเงียบ ทำไมหายไป ขนาดเป็นข่าวโด่งดังขนาดนี้ ยังไม่ออกมาตอบคำถามสักคำเดียว ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา กะจะปัดภาระไปให้คนอื่นอย่างนี้ไม่ถูกต้อง จะต้องออกมารับผิดชอบด้วย กับการที่โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงคือคำโกหกใช่หรือไม่ ต้องตอบ อย่าปัดความรับผิดชอบ งบกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ดูแลโดยตรงเรื่องการใช้งบประมาณ หรือว่านายกฯ ไม่รู้ว่า มันมีงบตัวนี้ แล้วท่านอนุมัติไปได้อย่างไร แบบนี้จะไปไล่คนอื่นให้ไปอ่านเอกสารงบประมาณ แบบที่ชอบพูดกลางสภาฯได้อย่างไร ตั้งข้อสังเกตอีกว่า ขณะนี้เป็นเกมหรือไม่ ที่แถให้เป็นเรื่องของอัยการ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ สำหรับตน คือเป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ด้วย คนที่รับโทษที่ผ่านมามีเพียงข้าราชการชั้นผู้น้อย พวกยศสูงๆ ยังไม่มีใครได้รับโทษ ซึ่งในป.ป.ช.ถ้าตนจำไม่ผิด ยังเหลืออีก 5 คดี ที่ยังค้างอยู่ และมีการเลื่อนไปไม่มีกำหนด

นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ทำไมกระทรวงกลาโหมของไทย ไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากประเทศอังกฤษตั้งแต่แรก ประเทศอื่นเรียกค่าเสียหายและได้เงินคืนมาบ้างแล้ว ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เคยออกมาให้สัมภาษณ์ เมื่อหลายปีก่อน ในทำนอง ว่าเรียกเงินไปเขาก็มีให้ไม่ครบ ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเรียกเงินคืน แต่ตนคิดต่างว่าเพราะไม่กล้าเรียกค่าเสียหาย ใช่หรือไม่ ไม่ต้องการให้รู้ยอดเงินที่จ่ายไปและเงินที่ต้องเอาคืนกลับมาให้ประเทศ ใช่หรือไม่ เราควรเรียกเงินคืนจาก ผู้ผลิต GT200 ตั้งนานมาแล้ว อาจไม่ได้เงินคืนตามยอดที่ซื้อจริง แต่ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ถามว่าทำไมเราไม่ยอมไปขอคืน ประเด็นแรกคือ เรายังไม่ยอมรับด้วยซ้ำ ว่า GT200 มันปลอม ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งไปตรวจอีก อีกประเด็นคือต้นตอปัญหา กลาโหมไม่รู้จะแจ้งยอดขอเงินคืนจากเขาเท่าไหร่

“ในกรณีนี้ที่โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวบอกได้เรียกเงินจากบริษัทเอวิเอ แซทคอม กว่า 683 ล้านบาท ก็น่าสงสัยว่าซื้อมาเกือบพันล้าน ทำไมเรียกคืนแค่นี้ กลาโหมกล้าๆ ลองส่งยอดนี้ไปต่างประเทศ กล้าส่งหรือ ผมคิดว่ากลาโหมไม่กล้าบอกยอดที่แท้จริง ที่จะขอเรียกคืนมากกว่า เพราะรู้ว่ามันมีเงินทอนอยู่หรือไม่ มันมีเปอร์เซ็นต์หรือไม่ ถ้าสมมุติขอเงินคืน 1,000 ล้านบาท ตามยอดงบที่เราเคยจ่ายไป แล้วทางนั้นเขายืนยันมาว่า อ้าวในรายการที่คุณมาซื้อไปมันแค่ 300 ล้านบาทเองนะ ทีนี้จะมีคนตั้งคำถามว่าอ้าวแล้ว 700 ล้านบาท หายไปไหน ทีนี้ฉิบหายกันทั้งวงการนะ ที่โยนกันไปกันมาเพราะไม่กล้า และอยากจะหนี ประเด็นเรื่องตัวเลขยอดเงินงบประมาณจริงที่เราจ่ายไปนั่นแหละ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าแน่จริงต้องออกมาตอบคำถามเรื่องนี้ให้ชัดๆ ชาวบ้านเขารอฟังอยู่” นายจิรัฏฐ์ กล่าว