จากกรณีนายพิทักษ์ชัย รักษ์สุข อายุ 62 ปี มือปืนบุกยิงผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ตายรวม 3 ศพ บนศาลาเอนกประสงค์หมู่บ้าน บ้านทุ่งน้ำใส หมู่ 7 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ คาดมีความคับแค้นในเรื่องส่วนตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. มีรายงานว่า หลังจากนายพิทักษ์ชัย ก่อเหตุยิง 3 ศพแล้ว จึงได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดแพร่ พร้อมถือหนังสือที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เข้ามาขอพบอัยการจังหวัดแพร่ แต่ไม่อยู่ จึงไม่ได้พบ โดยอ้างว่ามีระเบิดและปืนมาด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ตกใจรีบหนีตาย ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.เมืองแพร่ มารับตัว

ทั้งนี้ตำรวจ สภ.เมืองแพร่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่ง นายพิทักษ์ชัย นำระเบิดพร้อมอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 ใส่กระเป๋ามาขอพบอัยการจังหวัดแพร่ แต่ไม่เจอ และอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าฆ่าคนมา 3 คน แล้ว จะมอบตัว และเข้าตรวจสอบวัตถุระเบิดทั้งหมด 9 ลูก เป็นระเบิดแสวงเครื่องประดิษฐ์เอง พร้อมทำงานได้ทันที โดยใช้วิธีจุดชนวน พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้าน เป็นปืนลูกโม่ ขนาด .38 ใส่กระสุนครบ 6 นัด พร้อมใช้

นายโยธิน โลหะเวช เจ้าหน้าที่รับส่งหนังสือ สำนักงานอัยการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ผู้ต้องหาเข้ามาแล้วบอกว่ามาหาอัยการจังหวัด จากนั้นเค้าก็เดินขึ้นไปชั้นลอย ขึ้นไปแปบเดียวก็ลงมา คาดว่าท่านอัยการไม่อยู่ จากนั้นเค้าลงมา มาหานิติกร แล้วบอกว่าให้พาไปมอบตัวหน่อย นิติกรเลยจะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปส่ง แต่เขาไม่ยอมบอกว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับ จากนั้นเค้าเดินไปปิดประตูล็อกหมดเลย ไม่ให้ใครออก แล้วก็พูดว่าอย่าเค้ามานะ ผมมีทั้งปืนและระเบิด และเพิ่งฆ่าคนมา 3 คน ตอนแรกคิดว่าเค้าพูดเล่น เพื่อขู่ให้กลัว โดยมีหนังสือสั่งไม่ฟ้องมาด้วย แต่ไม่ทราบว่าคดีอะไร

ด่วน! มือปืนสุดเหี้ยม บุกกองทุนหมู่บ้านไล่ยิงทีละคน ‘ผญบ.-พวก’ ดับ 3 ศพ

“ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ต่างก็ทำงานอยู่ในห้องปกติ จนเค้าเอาปืนและระเบิดออกมา เจ้าหน้าที่เลยหนีออกไป ซึ่งคาดว่าที่เค้าเอาออกมาเพื่อไม่ให้ตำรวจเข้ามา ตอนนั้นตำรวจกำลังจะเดินเข้ามาเพื่อส่งสำนวนตามปกติ แล้วบอกว่าอย่าเข้ามา เค้าจับปืนไว้ตลอด เค้าบอกว่าเค้าพร้อมสู้ตาย จากนั้นตนจึงพูดพยายามให้เค้าใจเย็นขึ้น เค้าบอกเค้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนนั้นก็นั่งคุยกับเค้าอยู่ จากนั้นเค้าก็หยิบระเบิดออกมา เอามาวางบนโต๊ะ แล้วบอกว่า พี่กลัวมันระเบิด เอามาฝากไว้ก่อนนะ ตนจึงเก็บระเบิดเอาไว้ในลิ้นชัก ตำรวจจะเข้ามาเค้าไม่ให้เข้า เค้าก็ถือไฟแช็กไว้พร้อมจุด และจับปืนอยู่ที่เอวตลอด พร้อมแลกและยอมตาย” เจ้าหน้าที่รับส่งหนังสือ สำนักงานอัยการจังหวัดแพร่ กล่าว

ด้านร.ต.อ.วิษณุ ชมพูเมืองชื่น หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดแสวงเครื่องมี ทั้งหมด 9 ลูก โดยลักษณะของลูกระเบิดจะมีสายฉนวน วิธีใช้ใช้ไฟแช็กจุดเหมือนประทัดยักษ์ แต่แรงกว่า ซึ่งเป็นระเบิดพร้อมใช้งาน รัศมีระเบิดวงกว้าง 1 เมตร ถ้าอยู่ใกล้ก็อาจถึงตายได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น โดยเจตนา , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครอง, มีวัตถุระเบิดแสวงเครื่องไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปีนในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.