เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 21 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้ายื่นตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 11 คน ของฝ่ายค้านว่าเป็นญัตติเถื่อนหรือไม่ ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประธานสภา และเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมานายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ได้ยื่นต่อประธานสภาและจะไปยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป เพราะเรื่องนี้เทียบเคียงกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในอดีต กรณีนี้คล้ายเสียบบัตรแทนกันที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้วหลายคน และเรื่องนี้ยิ่งกว่าเสียบบัตรแทนกัน อย่างไรก็ตาม การยื่นญัตติของฝ่ายค้านครั้งนี้ถือว่าไม่เหมาะสม จะมาอภิปรายเขาแต่ขั้นตอนปฏิบัติไม่ถูกต้อง ยืนยันว่าตนไม่ได้กลัวการตรวจสอบ

“ผมไม่ได้กลัวการตรวจสอบ พรรคก้าวไกลอย่ามาพูด อย่ามายุ่งกับผม เพราะผมไม่เคยยุ่งกับคุณ เดี๋ยวรู้สึก เดี๋ยวเจอกัน จะตรวจสอบก็ตรวจสอบไป คนละประเด็นอย่าเบี่ยงประเด็น แต่ที่ผมให้ตรวจสอบคือญัตติของคุณมันชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่” นายสุชาติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝากอะไรถึงคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า แค่คนคนเดียวสามารถทำให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีปัญหาได้ ก็ไปคิดเอาเองแล้วกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตนเป็นลูกผู้ชายชัดเจน ถ้าอยู่ในสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามครรลองคลองธรรม ไม่มีปัญหา ถ้าเปรียบเทียบเหมือนตนกำลังเดินอยู่ มาเอาไม้ตีหัวตนและตนหันกลับไปสู้ แค่นี้มาร้องได้อย่างไร ไม่คิดกันหรือ ย้ำว่าอย่ามาเบี่ยงประเด็นว่าตนกลัวการตรวจสอบหรือได้คะแนนน้อย ได้ถ้วยบู้บี้ได้คะแนนรองบ๊วยและบ๊วยก็ได้มาแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลมีหลาย 10 พรรค เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ที่จะให้คะแนนเรา อยู่ในประเทศไทยต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้อง คุณเป็นผู้นำฝ่ายค้านออกกฎหมายใครจะเชื่อถือคุณ ตนไม่ได้บอกว่าคุณผิดหรือถูก แต่ถ้าเรื่องถึง ป.ป.ช.ก็ว่ากันไป และสุดท้ายก็สอบลายเซ็นทั้งหมดว่า ตอนเซ็นอยู่ที่สภาหรือไม่ ไปตอบคำถาม ป.ป.ช.เองแล้วกัน

เมื่อถามว่า ยังเชื่ออยู่หรือไม่ว่าเป็นเรื่องของผู้ที่มีอิทธิพลนอกพรรคฝ่ายค้าน นายสุชาติ กล่าวว่า แน่นอน และลองไปถาม นพ.ชลน่าน ดูว่าทำได้อย่างไรโดยพลการ และอยากให้ลองไปถามผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยู่ในสภามาหลาย 10 ปี ตอนลงชื่อเซ็นในร่างญัตติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 คนหรือ 11 คน ถ้าเซ็นในร่าง 10 คน เขาเอาชื่อท่านไปในร่าง 11 คนได้อย่างไร

ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชี้แจงสาเหตุที่ยื่นตรวจสอบ ญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้
วางใจฝ่ายค้านว่า เนื่องจากตนเป็นนักตรวจสอบการแก้ไขญัตติของฝ่ายค้านครั้งนี้ ทำให้ตนนึกถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่
15-18/2556 โดยให้หลักการไว้ว่าการแก้ไขญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะให้ส.ว.ลงเลือกตั้งต้องไปทำและเซ็นกันใหม่ ซึ่งศาลรัฐ
ธรรมนูญตีตก

เมื่อถามว่า ที่หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลพยายามเดินเกมนี้เพื่อให้ญัตติถูกเลื่อนออกไปจนหมดสมัยประชุม จนทำให้ญัตติตกไปนั้น
นายเรืองไกร กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ปีที่แล้วตนจำได้ว่ามีการลงมติในช่วงก.ย. โดยขอให้ทั้งสองฝ่าย ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านปฏิบัติหน้าที่
ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่ไปกล่าวหาเขา แต่พฤติกรรมของท่านกลับไม่ซื่อสัตย์สุจริตอย่างไรก็ตาม ขอให้ฝ่ายค้านกลับไป
เขียนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มายื่นต่อประธานสภาใหม่ ไฟล์เดิมก็มีอยู่แล้วใล้เวลาเพียง 1-2 วัน กลับไปทำให้ถูกต้องทุกอย่างจะได้ไม่มีปัญหา

“ผมไม่ได้รับงานมาจาก ครม. รัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ใครจะมีปัญหาอะไรเรืองไกรไม่เกี่ยว เรืองไกรทำหน้าที่เงียบมาก”นายเรืองไกร กล่าว.