เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) (ฉบับที่ …) พ.ศ. … วาระที่สองซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีทั้งสิ้น 27 มาตรา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาภาพรวมในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จนกระทั่งถึงการพิจารณา มาตรา 13 โดยคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก แก้ไข พ.ร.บ.กองทุน กยศ. มาตรา 41 กำหนดให้ผู้กู้เงินกองทุนจะต้องมีผู้ค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งมี กมธ.เสียงข้างน้อยสงวนคำแปรญัตติ และมี ส.ส.ขออภิปรายจำนวนมาก

โดย น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อยสงวนคำแปรญัตติ ขอให้ยกเลิกผู้ค้ำประกันในทุกกรณี ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของพรรคที่ต้องการให้เปิดกว้างแก่ทุกคนเข้าถึงสวัสดิการ กยศ. ได้ถ้วนหน้า ขยายเงื่อนไขการให้ทุนเรียนฟรีให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ยกเลิกผู้ค้ำประกันในทุกกรณี ผ่อนปรนเงื่อนไขชำระหนี้ ผู้กู้จะต้องจ่ายคืนต่อเมื่อมีรายได้สร้างดอกเบี้ย เบี้ยปรับที่เป็นธรรม และปัญหาสัญชาติที่ค้างคาจะต้องไม่เป็นปัญหาในการกู้ยืมอีกต่อไป

เช่นเดียวกับหลายพรรคการเมืองที่เห็นด้วยว่าจะต้องมีการยกเลิกผู้ค้ำประกัน อาทิ พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรครวมพลังท้องถิ่นไท เป็นต้น เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาผู้ค้ำประกัน เช่น พ่อ แม่ ครูอาจารย์ ได้รับความเดือดร้อน เมื่อผู้กู้ยืมไม่ยอมจ่ายเงินคืนกองทุน บางรายถูกฟ้องร้องหมดตัว ล้มละลาย ถูกยึดที่ไร่ ที่นา

ต่อมาที่ประชุมลงมติเห็นชอบกับผู้สงวนความเห็น และผู้แปรญัตติ ด้วยมติ 182 ต่อ119 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง เท่ากับว่าที่ประชุมเสียงข้างมากเห็นด้วยว่าให้ยกเลิกผู้ค้ำประกันเงินกู้ หรือหมายความว่าไม่เห็นด้วยกับคณะ กมธ.เสียงข้างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกมาตราที่น่าสนใจ คือการพิจารณามาตรา 17 แก้ไขมาตรา 44 พ.ร.บ.กองทุน กยศ. เกี่ยวกับผู้กู้ยืมเงินจะต้องมีหน้าที่ชำระเงินกู้ยืมที่ได้รับไปพร้อมทั้งดอกเบี้ยตามสัญญากู้ยืมเงินคืนให้กองทุน ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เสนอให้เก็บอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 แต่ต่อมาคณะ กมธ.เสียงข้างมาก ปรับลดให้เก็บอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ โดยฝ่ายเสียงข้างน้อย เสนอไม่ให้เก็บดอกเบี้ย และไม่ให้เก็บเบี้ยปรับ.