เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. ร่วมแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้างอาวุธปืนและยาเสพติดกว่า 400 จุด ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 โดยมี พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.จว.พังงา พร้อมคณะนายตำรวจร่วมให้การต้อนรับ

โดยผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในห้วงเวลาดังกล่าว สามารถตรวจเก็บ DNA บุคคลตามจุดที่เข้าค้นจำนวน 382 ราย จับกุมอาวุธปืน 85 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 859 นัด ผู้ต้องหาเกี่ยวกับยาเสพติด 270 ราย ยึดยาบ้า 69,182 เม็ด และยาไอซ์ 1,083.29 กรัม จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าได้ 54 ราย โดยจังหวัดที่มีการจับกุมอาวุธปืนมากที่สุดคือ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี จำนวน 22 กระบอก ตามมาด้วย ภ.จว.กระบี่ และพังงา หน่วยละ 14 กระบอก

ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 8 เป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการป้องกันอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ให้มีความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมามีการระดมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 8 อย่างจริงจังมาโดยตลอด รวมเป้าหมายตรวจค้นมากกว่า 2,000 จุด จับกุมอาวุธปืนรวมมากกว่า 300 กระบอก จับผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับอยู่ในพื้นที่ได้อีกกว่า 200 ราย ซึ่งผลจากการปิดล้อมตรวจค้นเหล่านี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า สามารถลดอาชญากรรมในภาพรวมลงไปได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งนโยบายนี้ก็จะยังคงปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานต่อไป เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาชญากรรมในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นวิธีการในการป้องกันอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม.