สำหรับเครื่องบินแบบ Airbus A380 เป็นเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 853 ที่นั่ง มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 575 ตัน ข้อมูลล่าสุดเมื่อปลายปี 64 ทางบริษัท แอร์บัส แจ้งว่า มียอดสั่งซื้อสุทธิ 251 ลำ มีการส่งมอบ A380 ไปแล้ว 249 ลำ ให้กับลูกค้า 14 ราย โดยสายการบินที่ใช้เครื่องบิน A380 ทำการบินให้บริการทั่วโลก มีดังนี้ สายการบิน Asiana, British Airways, China Southern, Emirates, Etihad, Korean Air, Lufthansa, Malaysia Airlines, Qantas, Qatar Airways, Singapore Airlines, Thai Airways และ ANA
สำหรับ Airbus A380 ทำการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือน ธ.ค. 2543 โดยเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 47 รถขนชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องบินแอร์บัส A380 ขบวนแรก, วันที่ 27 เม.ย. 2548 เที่ยวบินแรกของ A380 เกิดขึ้นที่ตูลูส ประเทศฝรั่งเศส, วันที่ 25 ต.ค. 2550 สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์นำเครื่อง A380 ทะยานขึ้นฟ้าให้บริการเป็นครั้งแรก ช่วงปลายเดือน มิ.ย. 2563 ขบวนรถขนส่งชิ้นส่วน A380 ลำสุดท้ายเดินทางกลับสู่ตูลูส จนกระทั่งกลางปี 2564 ประกาศยุติการผลิตเครื่องบิน Airbus A380 อย่างเป็นทางการ เนื่องจากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และความต้องการโดยสารเริ่มมีการกระจายตัว สาเหตุจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย Airbus A380 ลำสุดท้ายส่งมอบให้กับ เอมิเรตส์ ในเดือน ธ.ค. 2564
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ‘แอร์บัส A380’ ลงจอด ‘ดอนเมือง’ พิษฝนถล่มสุวรรณภูมิ
พบ ‘สนามบินดอนเมือง’ ไม่รองรับเครื่องแอร์บัส A380 ลงจอดได้เฉพาะเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม Airbus A380 มีชั่วโมงบินรวมทั้งหมด มากกว่า 7,300,000 ชั่วโมง ความน่าเชื่อถือในการปฏิบัติงาน 99+% ใช้เวลาเตรียมเครื่องบินให้พร้อมสำหรับเที่ยวบินต่อไปเพียง 90 นาที ซึ่งรวมเวลาขึ้นเครื่อง (Boarding Time) ที่ใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาที และเวลาลงจากเครื่องน้อย (embarking time) กว่า 15 นาที สำหรับ A380 สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 545 คน ในการวางแบบ 4 ชั้นโดยสาร ตามเครื่องบินพาณิชย์ปกติ และ A380 มีพิสัยการบินได้ในระยะ 8,000 ไมล์ทะเล (15,000 กิโลเมตร) ในรูปแบบการจัดวางเก้าอี้โดยสาร 545 ที่นั่ง แบบ 4 ชั้นโดยสารแบบมาตรฐาน.