เมื่อวันที่ 21 ก.ย. พ.ต.ต.สถิตย์ สะดีวงศ์ สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บสาหัสด้านหน้ามหาวิทยาลัยราชมงคลกรุงเทพ (เทคนิคกรุงเทพ) ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ พ.ต.ท.อนันท์ วงศ์คำ รอง ผกก.(ป.) สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูและรถกู้ชีพ รพ.เลิดสิน

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางเข้าด้านหน้ามหาวิทยาลัย พบร่าง น.ส.อนิจตา อยู่โสนะ อายุ 30 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย สภาพนอนหงายหายใจรวยริน สวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เป็นชุดกระโปรงสีเขียว เสื้อแขนยาว มีบาดแผลถูกแทงที่หน้าอกยาว 1 นิ้ว ลึกถูกอวัยวะภายใน และมีรอยถูกมีดฟันที่โหนกแก้ม 1 แผล เจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจเบื้องต้น ก่อนที่จะรีบนำตัวส่ง รพ.เลิดสิน แต่เจ้าตัวทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวน นายพลสิทธิ์ เลิศนภาพงศ์ อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ผู้มาถึงที่เกิดเหตุคนแรก เล่าว่า หลังจากได้รับแจ้งก็รีบเดินทางมาทันที และพบคนเจ็บซึ่งทราบว่าเป็น รปภ.ของทางมหาวิทยาลัย นอนอยู่ที่สนามหญ้าหน้าป้ายสถาบัน โดยมีพนักงานรักษาความปลอดภัยผู้ชายคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ หลายคน เมื่อตรวจสอบบาดแผลเบื้องต้นพบเสื้อที่หน้าอกมีรอยมีด ขณะนั้นผู้บาดเจ็บอยู่ในอาการสาหัส เริ่มหายใจติดขัด จึงรีบประสานขอรถกู้ชีพ รพ.เลิดสิน ระหว่างนั้นผู้บาดเจ็บชีพจรเริ่มอ่อน จึงได้ทำการปั๊มหัวใจ ก่อนที่รถกู้ชีพจะมาเคลื่อนย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล แต่ไม่ทันการเนื่องจากบาดแผลฉกรรจ์มากจึงทำให้เสียชีวิต


พ.ต.อ.กฤษดา เปิดเผยว่า กลุ่ม รปภ.เพื่อนร่วมงานผู้ตายหลายราย ให้ข้อมูลตรงกันว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็น นายสิงห์ อายุประมาณ 50-55 ปี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกัน โดยนายสิงห์ ตามจีบผู้ตายมานานแล้ว แต่ผู้ตายไม่เล่นด้วย หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในมหาวิทยาลัยก่อนจะหายตัวไป ปกติผู้ก่อเหตุจะเข้าเวรกะกลางคืน ส่วนผู้ตายจะเข้าเวรกะเช้า ก่อนเกิดเหตุมีคนได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกัน อีกทั้งยังเห็นว่า นายสิงห์ พยายามโอบรัดผู้ตาย กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องหึงหวง-ชู้สาว หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.กฤษดา ได้ประสานขอข้อมูลจากต้นสังกัดของ นายสิงห์ มือมีด แล้วก่อนจะสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนออกตามล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.