จัดเป็นอีกหนึ่งตลกชื่อดังที่ออกมายอมรับว่าติดเหล้านับ 10 ปี เกือบเอาชีวิตไม่รอดสำหรับ “ปอยฝ้าย มาลัยพร” ถึงขั้นขอลาออกจากวงหมอลำเสียงอิสาน เพื่อมารักษาบำบัดตัวเองจนหายขาด ล่าสุด ปอยฝ้าย ได้มาเผยวิธีที่ทำให้ตัวเองผ่านจุดนั้นมาได้ผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่ม พร้อมอัพเดทชีวิตล่าสุด ผันตัวทำธุรกิจน้ำปลาร้าจนพารวย

ปอยฝ้าย เผยว่า “ติดเหล้าถ้าถามว่าติดขนาดไหนต้องเรียกว่า เป็นความผูกพัน ติดขนาดถึงขั้นพกพาถ้าเราถือขวดเหล้าไม่ได้ ก็เปลี่ยนใส่เป็นขวดธรรมดาพกไปตลอด ตื่นเช้ามันสั่งให้ถอน ถ้าไม่ถอนมันก็ลืมตาขึ้นมาไม่ได้ พะอืดพะอมเหมือนคนจะอ้วกถ้าเราไม่ได้กิน เพราะฉะนั้นก็ต้องเติมเข้าไป พอเครื่องติดเราก็ต้องเติมทั้งวัน อยู่กับต้นไม้พูดกับต้นไม้ไป ผมเริ่มกินตั้งแต่อายุ 18 คนโบราณเค้าบอกว่ามีงานแล้วค่อยกิน บังเอิญเสียงอิสานมีงานทุกวันผมก็เลยกินทุกวัน ผมก็ไม่ผิด บนเวทีที่เราเห็นว่าเมาคือเมาจริง แต่คราวนี้ตอนนั้นเรายังวัยรุ่นอยู่ พอสะสมมาเป็นเวลา 10 ปี เราเพิ่งรู้ว่าเราติด ก็เลยต้องเริ่มรักษา เพราะมันไม่ใช่เรากินเพื่อความสนุก ที่รู้ว่าติดคือตอนนั้นถ้าเราไม่ได้ถอนมันก็ไม่ได้ บางคนถ้ารู้สึกจะอ้วกเค้าไม่ยอมแตะเลยนะ เค้าจะไม่ยอมให้มันทรมานและค่อยๆ สร่างออกไป แต่ว่าไม่ใช่อย่างนั้น เราจะมีพกติดตัวตลอดเพื่อเก็บไว้ถอนในวันถัดไป เหมือนมันสั่งให้เราต้องจัดระเบียบ”

“ถามว่าอาการหนักแค่ไหน คือผมจะกินข้าวไม่ค่อยได้ อย่างมากก็มะม่วงเปรี้ยวๆ และทีนี้มันกัดลำไส้ถึงขั้นอ้วกเป็นเลือดเลย ตอนนั้นก็รู้สึกขยาดตัวเองถึงขั้นกลัวตาย ก็บอกตัวเองให้เลิกกินอยู่เหมือนกัน แต่พอฟื้นตัวมามันก็กลับมากินเหมือนเดิม เป็นแบบนี้ทุกวัน เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 4-5 ปี ที่เลิกหักดิบคือพอมันเริ่มเสียงาน จนตัดสินใจลาออกจากเสียงอิสานเอง เพื่อตั้งใจที่จะไปบำบัดรักษาตัว เพราะก่อนหน้านี้เราทำงานไม่จบบ้าง ร้องเพลงไม่จบบ้าง วูบบ้างหลับบ้าง เลยตัดสินใจบอกแม่นกน้อย ถ้ายังอยู่แบบนี้สิ่งแวดล้อมเดิมๆ มันก็คงจะเป็นไปได้ยาก ก็เลยตัดสินใจลาออกจากวง ตอนแรกไปวัดก่อนใช้วิธีเลิกเหล้าเข้าพรรษา แต่พอมันไม่ได้ผลก็เลยตัดสินใจเข้าไปบำบัดเลย ด้วยการใช้ยารักษา ที่แรกเลยคือ ศรีมหาโพธิ์ จังหวัดอุบลฯ แต่พอดีขึ้นมาระยะหนึ่งก็หลุดอีก เลยมาได้รักษาที่ธัญญารักษ์ รังสิต จนอาการดีขึ้น แต่พอหายขาดช่วงแรกก็มีไขว้เขวบ้าง บรรยากาศสนุกต่างๆมันพาไป แต่เราก็คิดว่ามันสนุกได้แบบที่ไม่ต้องมีอะไรปนเปื้อน เหมือนเราสนุกจากอารมณ์ข้างในจริงๆ”

ปอยฝ้าย เล่าต่อว่า “เรื่องขายน้ำปลาร้า ต้องขอบคุณพี่น้องในวงการบันเทิง ที่เป็นแรงผลักดันเป็นไอดอลของเราให้ผุดธุรกิจน้ำปลาร้าขึ้นมา ต้องขอบคุณ “พี่ไมค์ ภิรมย์พร-พี่สุ สนารี” ที่ทำให้ศิลปินรุ่นน้องทุกคนมีแนวคิด ผมยังแสดงอยู่ครับ ยังรับงานละคร ยังร้องเพลง รับงานคอนเสิร์ตเหมือนเดิม งานวัดงานประเพณีต่างๆ ก็ยังรับเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้งานก็เริ่มกลับมาแล้ว ภาพยนตร์ ละคร ไลฟ์สด ยังรับเหมือนเดิม เพราะรู้สึกเหมือนเราได้บำบัด ได้ทักทายแฟนคลับของเรา ได้ถามไถ่ให้กำลังใจกันและกัน”