เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้า การให้บริการ วัคซีนไฟเซอร์สูตรเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี ว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด สำหรับเด็กเล็ก จะเริ่มในวันที่ 12 ต.ค. โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานคิกออฟ ที่ รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ส่วนประชาชนทั่วไปขอให้ฉีดเข็มกระตุ้นห่างกันทุก 4 เดือน และน่าจะมีการฉีดอย่างน้อย 2 ล้านโด๊ส ภายในเดือน ธ.ค.

นพ.ธเรศ กรัษนัยวริวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนโควิดสะสมในประเทศไทย 143 ล้านโด๊ส ครอบคลุมตั้งแต่เด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป สำหรับวัคซีนโควิดไฟเซอร์สำหรับเด็กเล็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี มีกำหนดเข้าไทยวันที่ 7 ต.ค. ลอตแรก 5.04 แสนโด๊ส จากนั้นต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบรับรองรุ่นการผลิตจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนกระจายไปที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ ทั้งนี้จากการสอบถามความสมัครใจผู้ปกครองในการให้บุตรหลานรับวัคซีน เบื้องต้นพบมีประมาณ 3 แสนคน โดยสามารถฉีดร่วมกับวัคซีนพื้นฐานชนิดอื่นได้

ส่วนสถานการณ์โรคโควิด มีการติดตามทุกวัน แต่รายงานเป็นรายสัปดาห์ โดยวันที่ 2-5 ต.ค. 2565 มีผู้ป่วยในระบบรายงาน 1,305 ราย เฉลี่ยวันละ 326 ราย เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 9 ราย จากการประเมินตัวเลขยังเป็นไปตามคาดการณ์และควบคุมได้ อยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กเล็ก 6 เดือน ถึง 4 ปี เป็นกลุ่มเดียวที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งช่วงการระบาดของโอมิครอนพบว่า เด็กเล็กกลุ่มนี้มีการป่วยและอัตราเสียชีวิตสูงกว่าเด็กโต 3 เท่า ทั้งนี้สหรัฐอเมริกา ติดตามหลังฉีดวัคซีนเด็กเล็ก ครบหนึ่งเดือน ไม่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรงถือว่าปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก ซึ่งช่วงนี้มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แต่วัคซีนจะช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยหนักเมื่อเด็กไม่ป่วย พ่อแม่ผู้สูงอายุในบ้านก็ลดความเสี่ยง และช่วยลดการเกิดภาวะมิสซี (MIS-C) หรือการอักเสบทั่วร่างด้วย.