เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จากสาเหตุพนังกั้นแม่น้ำชีใน ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ชำรุดขาด เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา นานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ส่งผลทำให้นํ้าท่วมในหลายพื้นที่โดยวันนี้พบว่า สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะประชาชนหลายหมู่บ้านใน ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่แรกๆ น้ำได้แห้งกลับเข้าสู่ปกติแล้ว ทั้งนี้ แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนอยู่ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ต่ำ รวมถึงพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวของเกษตรใน อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย ยังคงถูกน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้างมานานกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ต้นข้าวที่กำลังออกรวงและรอการเก็บเกี่ยวเน่าเสีย และน้ำเริ่มส่งกลิ่นเหม็น

นางกฤษณา จงผดุง อายุ 50 ปี เกษตรกรใน อ.กมลาไสย กล่าวว่า น้ำท่วมปีนี้หนักมาก นาข้าวหลายพื้นที่กลายเป็นทะเลสาบ และถูกน้ำท่วมขังมานานกว่า 2 สัปดาห์ รวมทั้งนาข้าวของตนด้วย ซึ่งถูกน้ำท่วม 5 ไร่ คาดว่าน่าจะเสียหายทั้งหมด ทั้งนี้ ทราบว่าหลังจากนี้เกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยและช่วยเหลือจากรัฐบาลไร่ละ 1,200 บาท และได้รับเงินช่วยเหลือประกันน้ำท่วมจาก ธ.ก.ส. ไร่อีกละ 1,200 บาท ส่วนตัวนั้นตนมองว่าไม่คุ้มและยังน้อยอยู่ เนื่องจากที่ผ่านมาชาวนาต้องจ่ายค่าแรง รวมทั้งค่าปุ๋ยก็แพงด้วย ซึ่งหากได้รับเงินช่วยเหลือเท่านี้จึงถือว่าไม่คุ้ม อยากให้เพิ่มมากกว่านี้ และรู้สึกเสียดายอย่างมาก เพราะกว่าจะปักดำ กว่าจะปลูก และดูแลรักษาต้นข้าวจนโตใช้เวลาหลายเดือน แต่ก็ต้องยอมรับเพราะนาข้าวได้เสียหายจนแทบหมดตัว

ขณะที่ความคืบหน้าการกู้ถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ช่วงบ้านหัวแฮด ต.ธัญญา อ.กมลาไสย ไปถึงบ้านท่ากลาง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุด นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางดวงตา พายุพล ผอ.แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็กติดตั้งตามแนวกระสอบทราย เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ด้านนอกเนื่องจากระดับน้ำที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไม่สามารถสูบได้ เพราะท่อสูบน้ำเข้าเริ่มตื้นเขิน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า การกู้ถนนสายดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก มีน้ำท่วมขังพื้นผิวถนนเหลืออยู่ระยะทางประมาณ 800 เมตร และระดับลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 10-20 เซนติเมตร จากเดิมท่วมสูงถึง 90 เซนติเมตร และหากสูบน้ำออกได้ระดับจะเข้าเคลียร์พื้นที่ โดยเฉพาะโคลน และเศษวัชพืชที่อยู่ตามผิวถนนออก และจะพยายามจะเปิดให้ใช้งานได้ภายในวันนี้

สำหรับกรณีพนังกั้นลำน้ำชีขาดบริเวณ กม.6 บ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ได้รับผลกระทบจำนวน 2 อำเภอ คือ อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย จำนวน 7 ตำบล 41 หมู่บ้าน 2,147 หลังคาเรือน 7,089 คน วัด 12 แห่ง โรงเรียน 4 แห่ง คลี่คลายแล้ว 1 แห่ง (รร.บ้านเเวงประชารัตน์บำรุง) และ รพ.สต. 2 แห่ง (รพ.สต.ท่าเยี่ยม,รพ.สต.หนองบัว) ถนนจำนวน 10 สาย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหายจำนวน 26,158 ไร่ และด้านประมง 185 ไร่

ทั้งนี้ ปัจจุบันพื้นที่อำเภอฆ้องชัย จากเดิมมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมจำนวน 863 หลังคาเรือน ล่าสุดสถานการณ์คลี่คลายแล้ว บางพื้นที่ประชาชนสามารถกลับเข้าบ้านตนเองได้ บางส่วนอยู่ระหว่างสำรวจ ส่วนพื้นที่ อ.กมลาไสย ประชาชนเข้าอยู่อาศัยได้แล้ว 360 หลังคาเรือน จากเดิมมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วม 1,284 หลังคาเรือน และยังคงถูกน้ำท่วมอยู่ 924 หลังคาเรือน ซึ่งแนวโน้มสถานการณ์น้ำในพื้นที่ระดับน้ำในแม่น้ำชีมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ทางจังหวัดและหน่วยที่เกี่ยวข้องจะเร่งฟื้นฟู เยียวยา และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ภาพรวมทั้งจังหวัด จากข้อมูลของ ปภ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่เข้าสู่ช่วงฤดูฝนพบว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 9 อำเภอ 27 ตำบล 226 หมู่บ้าน 9,043 ครัวเรือน 2,346 หลังคาเรือน ถนน 12 สาย วัด 14 แห่ง โรงเรียน 5 แห่ง รพ.สต. 2 แห่ง โดยมีพื้นที่การเกษตร คาดว่าจะได้รับความเสียหายรวม 80,673.75 ไร่ และด้านประมงอีกกว่า 285 ไร่.