เมื่อวันที่ 8 พ.ย. จากกรณีชุดปฏิบัติการร่วมกว่า 50 นาย สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด พื้นที่หมู่ 7 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังสืบทราบมีบุคคลเป้าหมายเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุลอบวางเพลิง วางระเบิดปั๊มน้ำมันบางจากใน อ.หนองจิก เสียหายอย่างหนัก เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนา และเครือญาติเข้าร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านยอมออกมามอบตัว แต่คนร้ายกลับยิงสวนออกมาทำให้เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น ต่อมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และนายเจ๊ะมูหามะญากี เจ๊ะเด็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ดอนรัก ผู้ใหญ่บ้านที่เข้าร่วมเจรจากับคนร้ายถูกยิงได้รับบาดเจ็บก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายมะนาเซ ไซร์ดี อายุ 32 ปี พบอาวุธปืน 9 มม. ตกอยู่ข้างกาย ตรวจสอบประวัติมีหมายจับในคดีความมั่นคง 7 หมาย ที่สำคัญคือ เกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดหลายจุด ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เมื่อวันที่ 12 ส.ค.59, ลอบวางระเบิดบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.60, เหตุโจมตีชุดคุ้มครอง ต.บ้านกอแลปิเละ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 23 ก.ค.62 มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาดอนยาง ในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 17 ส.ค.65 โดยเป็นผู้ร่วมวางแผนและทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้คนร้ายอีกส่วนหนึ่งเข้าไปก่อเหตุ

ปะทะเดือด! ปิดล้อมล่าโจรใต้บึ้มปั๊ม ‘วิสามัญ1-ผญบ.ดับ1-ตำรวจเจ็บ2’

ล่าสุด พลโทศานติ สกุนตนาค แม่ทัพภาค 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ นายเจ๊ะมูหามะญากี เจ๊ะเด็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ กล้าหาญ เป็นผู้บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พี่น้องประชาชน ปฏิเสธกลุ่มคนร้ายไม่ให้เข้ามาหลบซ่อนพักอาศัยภายในหมู่บ้าน อีกทั้งยังเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามบังคับใช้กฎหมายและเจรจากับคนร้ายเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่กลับถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้ายิงใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ และตัวผู้ใหญ่บ้านเองได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของนายเจ๊ะมูหามะญากี เป็นการกระทำที่น่ายกย่องและเชิดชูเกียรติอย่างถึงที่สุด สำหรับเรื่องการจัดการศพและการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบและสิทธิ จะเร่งประสานให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่จนนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายในครั้งนี้ ซึ่งหากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายหรือพบเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง สามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 06-1173-2999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.