เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ภาพหน้าพาสปอร์ตของผู้หญิงคนหนึ่งในเพจ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” พร้อมข้อความโดยสรุปประมาณว่า “เศษซากขบวนการจีนเทา กับความเหม็นเน่าของน้ำลายในปาก ของกลุ่มจีนสีเทามัน ที่อาจจะอ้างได้ทุกอย่าง ถึงขนาดเช่าตึกตกแต่งเหมือนสถานทูต มีธงชาติวางเรียงราย พร้อมรูปผู้นำนานาประเทศ มีรถหรูปักธงเหมือนรถทูต แถมมีรถตำรวจนำ เหมือนคู่กรณี ที่ชอบอ้าง รู้มากไปทุกเรื่อง เรียกสื่อแถลงข่าวรายวัน มันออกทะเลไปไกลถึงขนาดกล่าวหาว่านายชูวิทย์ รู้จักเหนืออำนาจรัฐสนับสนุนให้พูด ทั้งที่ข้อมูลที่ให้ตำรวจไปนำไปขยายผลจนพวกจีนเทาถูกไล่จับ

จากนี้ไปมันต้องอยู่ยาก! ‘ชูวิทย์’ เกาะติด ‘สันธนะ’ แฉโผล่อาบอบนวด เคลียร์ใครบางคน

ในข้อความยังระบุถึงสมัยอดีตที่คู่กรณีชอบแถลงข่าวเพ้อเจ้อ อวดรวย เคยซื้อมือถือเครื่องละ 200,000 กว่าบาท ทั้งยังบอกว่าไม่เคยรู้ว่าเงินเดือนสมัยเป็นตำรวจได้เท่าไหร่ เพราะฐานะร่ำรวยจนไม่ได้สนใจ จนสื่อฟังแถลงแล้วรู้สึกไร้สาระ นั่งส่ายหัวกันถ้วนหน้า พร้อมเหน็บแนมว่าพฤติกรรมของคู่กรณีเหม็นกว่าอุจจาระเสียอีก จากนั้นมีการพูดถึง เรื่องสาระเป็นประโยชน์ อ้างว่าวันนี้ข้อมูลพรั่งพรูหลั่งไหลมา เศษซากขบวนการทุนจีนสีเทาที่จะเอาไว้ให้ท่าน รอง ผบ.ตร. สร้างผลงานขยายผลปราบจีนเทาแทะประเทศไทย

แล้วจากนั้นมีการพูดถึงหน้าพาสปอร์ต อ้างว่าเป็นของหนึ่งในขบวนการจีนเทา ที่กระจัดกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง โดยระบุว่า ผู้หญิงในรูปเป็นคนจีน ทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์คอยหาที่หลบซ่อนกับบรรดาจีนเทาที่ยังซุกตัวอยู่ในประเทศไทย หากตำรวจจับได้จะรู้ว่า บรรดาจีนเทาซุกซ่อนกันอยู่ที่ไหนบ้าง? โดยย้ำว่าข่าวกรองของตัวเองบอกว่า แหล่งซ่องสุมใหม่ไปเช่าอยู่ที่ คอนโดฯ ริมถนน สาทร-ตากสิน ซึ่งเป็นข้อมูลให้ทีม รอง ผบ.ตร. บิ๊กต่อ บิ๊กรอย บิ๊กโจ๊ก ไว้สืบขยายผล

ก่อนสรุปท้ายข้อความระบุว่า ทุกๆ อาชญากรรม ย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ มีให้ไปต่อยอดกวาดล้างเพิ่มเติม เพราะสายข่าวกระซิบมาว่ายังมีของกลางที่น่าสนใจอีกหลายรายการ ก่อนสรุปปิดข้อความว่า ส่วนคู่กรณีไม่มีข้อมูลใดๆ ยกเว้นน้ำลายบูดเหม็น”