กดปุ่มนาฬิกาเซตระบบตั้งเวลานับถอยหลังอัตโนมัติกันได้เลย สำหรับงาน “แกรนด์โอเพนนิ่ง” ประกาศอนาคตการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังจากที่ปล่อยให้ทุกอย่างอึมครึมมาหลายสัปดาห์

ตามท้องเรื่องภายหลังจบภารกิจเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค 2022 พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณเตรียมแยกทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อออกไป ทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ตามแบบฉบับของตัวเอง

เป้าหมายสูงสุดคือทำแฮตทริก นั่งเก้าอี้นายกฯ 3 สมัยซ้อน!

หากไล่เรียงความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดสัปดาห์ จะทำให้เห็น “จิ๊กซอว์การเมือง” ที่ค่อย ๆ ถูกต่อให้เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้น

(1) วันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ เข้าพบ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด แจ้งเรื่องตัดสินใจลาจากพรรค พลังประชารัฐ เพื่อออกไปทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

(2) วันจันทร์ที่ 21 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มเดินสายเช็กเรตติ้งคน กทม.ก่อนสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ ลงพื้นที่บางกะปิ​ส่วนตัวแบบไม่แจ้งภารกิจล่วงหน้า พร้อมส่งสัญญาณเตรียมไปต่อในสมัยหน้า

“อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ต้องมีการเชื่อมโยงต่อเนื่องกัน วันนี้เราอยู่ตรงกลางคือ ปัจจุบัน ส่วนประวัติศาสตร์ต้องทำต่อ ทำใหม่ให้ดีขึ้น และทำปัจจุบันให้มีความสุข ส่วนอนาคต เราต้องลงทุนต่างๆ เพื่อไปสู่อนาคต รองรับการเจริญเติบโตของประเทศและบ้านเมือง” พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำ

(3) วันอังคารที่ 22 พ.ย. รัฐบาลออกหนังสือความหน้า 450 หน้า โปรโมตผลงงานรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ นำเสนอผลงงานเด่นก่อนรัฐบาลครบวาระต้นปี 2566 โดย เฉพาะนโยบายปกป้องเชิดชูสถาบัน, การแก้ปัญหาโควิด, มาตรการการคลังช่วยเหลือประชาชน


(4) วันพุธที่ 23 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ปฏิเสธเรื่องเตรียมสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่เปิดเผยสั้นๆ ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

(5) วันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มเดินสายเช็กเรตติ้งพื้นที่ต่างจังหวัดไป จ.เพชรบูรณ์ เป็นประธานคิกออฟมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมีกำหนดการปราศรัยพบปะกับกลุ่มเกษตรกรและประชาชน

โดยพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เป็นพื้นที่หลักของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค พปชร. ที่มีกระแสข่าวเตรียมย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ

เอาเป็นว่ามองข้ามชอตไปเลยสำหรับภาพอนาคตการเมือง ในช่วงรัฐนาวาประยุทธ์ใกล้หมดอายุขัย ภาพที่คอการเมืองทั้งประเทศจะได้เห็นเต็มสองตาคือ “ศึก 2 ป.” ใช้กำลังภายใน แย่งชิงตัว ส.ส.เพื่อเตรียมทำศึกเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า

ท่ามกลางกระแสข่าวมี ส.ส.จากหลายพรรค เตรียมย้ายตาม พล.อ.ประยุทธ์ ไปสังกัดพรรคใหม่ ไม่ต่ำกว่า 70 คน โดยในพื้นที่ภาคใต้ มีการปักธง ส.ส.ไว้ จำนวน 15 คน จากทั้งหมด 58 เขตเลือกตั้ง

หน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยกำลังเดินมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ บทสรุปจะเป็นเช่นไร ต้องตามติดชนิดไม่กะพริบตา!