เมื่อวันที่ 25 พ.ย. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ (ศปจร.น.) ร่วมแถลงผลการจับกุม รถแท็กซี่เถื่อนสวมทะเบียนปลอม ตระเวนรับผู้โดยสาร พื้นที่ อ.คลองสาม จ.ปทุมธานี

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.น. ได้นำกำลังเข้าค้นบ้านพักเลขที่ 40/3126 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้พบนายรณชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นพบ แผ่นป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ ที่มีลูกค้าสั่งไว้จำนวน 2 แผ่น และแม่แบบ พิมพ์โลหะปั๊มอักษรย่อ ขส. รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในการผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ภายในบ้านพักดังกล่าว จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้

จากการสอบถาม นายรณชัย ให้การยอมรับว่า ได้เปิดร้านรับซ่อมแซมแผ่นป้ายทะเบียน ชื่อ B&M Modify ถนนเลียบคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จึงได้สมัครใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจ ค้นที่ร้านดังกล่าวด้วย ผลการตรวจค้นพบ เครื่องคอม้าใช้สำหรับอัดตัวอักษรลงแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 เครื่อง, เครื่องปั๊มลงตัวอักษร ขส. จำนวน 1 เครื่อง, แผ่นอะคริลิกตัวอักษรและเลขอารบิกจำนวนมาก รวมทั้งหมวดป้ายทะเบียนจังหวัดต่าง ๆ รวมของกลางกว่า 300 รายการ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.น. จึงได้ขยายผลไปยังผู้สั่งซื้อป้ายทะเบียนรถยนต์จากแหล่งผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมดังกล่าว พบรถยนต์แท็กซี่ ยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส สีเขียว-เหลือง ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์รับจ้างทั่วไปปลอม (ป้ายทะเบียนสีเหลืองตัวอักษรสีดำ) หน้า-หลัง มฎ 5148 กรุงเทพมหานคร

ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า รถยนต์แท็กซี่คันดังกล่าวมีการปลอมทะเบียนขึ้นเพื่อสวมทะเบียนกับรถยนต์แท็กซี่คันอื่น ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก แต่หมดสภาพการใช้งาน คือเกิน 12 ปีไปแล้ว มาปรับแต่งโครงด้านหน้าทั้งไฟหน้า-หลัง ให้เหมือนสภาพของแท็กซี่ที่ยังใช้งานได้ในปัจจุบัน และมีการขับตระเวนรับผู้โดยสารมาแล้ว 4-5 ปี ซึ่งการสวมทะเบียนรถแท็กซี่ดังกล่าว อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอันตรายแก่ผู้โดยสารแท็กซี่ทั่วไป เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุขึ้น เช่น การลืมสิ่งของ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การชิงทรัพย์ ฯลฯ จะทำให้ไม่สามารถติดตามผู้ก่อเหตุได้

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.น. ยังได้ขยายผลตรวจยึดรถยนต์ที่เจ้าของมีการสั่งซื้อแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม และแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม (สีชมพู-ฟ้า) เพื่อสวมกับรถยนต์คันอื่นๆ ในลักษณะ ปลอมกับรถยนต์รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน อีกจำนวน 5 คัน จากการสอบถามผู้ต้องหาทราบว่าเป็นรถที่ตนเองไฟซื้อจากการหนีไฟแนนซ์มา หรือการซื้อจากการจำนำมาหลายๆทอดในราคาต่ำ จึงไม่สามารถติดแผ่นป้ายจริงได้ จึงต้องซื้อแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมาใช้งาน โดยรถทั้ง 5 คัน นำส่งโรงพัก สภ.คลองหลวง, สน.วังทองหลาง, สภ.ไทรน้อย และ สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินการตามกฎหมาย

พล.ต.ต.นิตินันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมในครั้งนี้ นอกจากเป็นการขยายผลจากการจับกุมเมื่อครั้งก่อน ได้มีการสืบทราบจากกล้องที่ตรวจจับแผ่นป้ายทะเบียน พบว่าแผ่นป้ายทะเบียนมีรถสองคันซ้ำกัน จึงนำมาขยายผลจับกุมในครั้งนี้ จึงขอเตือนให้ประชาชนที่ยังพยายามใช้ป้ายทะเบียนปลอมอยู่ ว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการขยายผลจับกุมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ทาง บช.น.ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในการใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จะต้องใช้แผ่นป้ายทะเบียนที่ออกจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น หากพบการใช้ป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม รวมถึงแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม มีความผิดตามกฎหมายอาญาเข้าข่ายความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท.