จากกรณีการทุจริตการสอบนายสิบของตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 (ศฝร.ภ.9) โดยได้มีคำสั่งให้ 118 นักเรียนนายสิบ พ้นสภาพ พร้อมกับเร่งหาหลักฐานเพื่อเอาผิดผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม นั้น

ตะลึงสั่งเชือด ‘118 นักเรียนนายสิบ’ เอี่ยวโกงสอบเข้าตำรวจ เอาผิดอาญาซ้ำ
เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทุจริตสอบนายสิบตร. บช.ภ.9 ส่งกก.สอบสวนข้อเท็จจริง
ฉาวโฉ่อีก! สอบเข้านักเรียนนายสิบ บช.ภ.9 รุ่น 2 พบทุจริตมีขบวนการใหญ่เบื้องหลัง

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายบรรจง เกตุศรัทธา เจ้าของสำนักงานกฎหมายเกตุศรัทธา เปิดเผยว่า ในการดำเนินคดี จะต้องมีการดำเนินคดีทั้งผู้เรียกรับเงิน ทั้งที่เป็นนายหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง และผู้เข้าสอบที่เป็นผู้จ่ายเงินในการซื้อข้อสอบครั้งนี้ ดังนั้นผู้เข้าสอบนอกจากเสียเงินคนละ 500,000 แล้ว ยังมีความผิดในข้อหาทุจริต และคดีนี้ต้องขึ้นศาลทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 ซึ่งจะต้องมีผู้เดือดร้อนที่เป็นผู้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก เพราะคดีอย่างนี้ ทั้งผู้จ่ายเงินและผู้เรียกรับเงินต่างมีความผิดด้วยกัน จึงทำให้มีขบวนการต้มตุ๋นด้วยการเรียกรับเงิน เพื่อช่วยให้สอบเข้าตำรวจเกิดขึ้น เพราะเมื่อผู้จ่ายเงินสอบไม่ได้ จึงไม่มีการแจ้งความ เพราะถ้าแจ้งความเอาผิดกับผู้รับเงิน ผู้จ่ายเงิน ก็มีความผิดด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากการได้พูดคุยกับผู้ที่จ่ายเงินเพื่อให้สอบเข้าเป็นตำรวจนายสิบได้ ว่า ในการจ่ายนั้น ไม่ได้จ่ายเท่ากันทุกคน บางคนที่รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่สามารถวิ่งเต้นฝากฝังกับคนในสำนักงานตำรวจได้ ก็จะจ่ายน้อยหน่อย ตั้งแต่ 50,000 ถึง 200,000 บาท แต่นอกจากนั้น หลังจากผ่านการสอบข้อเขียน ยังต้องมีการวิ่งเต้นจ่ายเงินให้กับขั้นตอนการสอบสมรรถนะ และการสอบสัมภาษณ์อีกต่างหาก แต่ผู้ปกครองของผู้เข้าสอบยอมจ่าย บางคนกู้เงินมา บางคนเอาที่ดินไปจำนอง เพื่อให้ลูกได้สอบเข้าตำรวจ ซึ่งเป็นที่รู้กัน และเป็นช่องทาง ให้นายหน้าถือโอกาสเรียกรับเงินจากผู้เข้าสอบในทุกครั้ง