เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะอดีตผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงกรณีการทุจริตการสอบนายสิบของตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งมีการเรียกรับเงินเพื่อให้ช่วยสอบเข้าตำรวจ จนนำไปสู่การตั้งกรรมการสอบสวนและให้นักเรียนนายสิบที่ทุจริต พ้นสภาพหลายร้อยคนว่ากระบวนการทุจริตในการสอบของตำรวจมีมานานแล้ว และทำกันจนเป็นเรื่องปกติ ในอดีตที่ตนอยู่ในวงการตำรวจ รับทราบถึงวิธีการทุจริตมากมาย เช่น การให้เข้าสอบแทนกัน โดยมีบุคคลที่เป็นหัวกะทิ ทำหน้าที่เป็น “มือสอบ” ใช้วิธีการหลายรูปแบบ

ตั้งแต่เข้าห้องสอบเพื่อจำข้อสอบแล้วกดรหัสมอร์สส่งเข้าไปให้ผู้เข้าสอบผ่านนาฬิกาหรือโทรศัพท์ หรืออาจนั่งสอบอยู่ด้วยกันแล้วใช้รหัสมือในการส่งสัญญาณมาทีละคำตอบ หรือการรับจ้างเข้าไปสอบ โดยทั้งผู้จ้างและผู้รับจ้าง จะเขียนชื่อและรหัสผู้สอบลงบนข้อสอบสลับกันเป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการทุจริตที่เป็นแพ็กเกจใหญ่ ที่มีการนัดแนะลูกค้าอย่างเป็นระบบ ทั้งขั้นตอนการส่งรหัสสัญญาณ การใช้อุปกรณ์ ไปจนถึงการขโมยข้อสอบออกมาผ่านการซื้อตัวผู้ออกข้อสอบ ซึ่งโดยปกติจะถูกนำตัวไปกักบริเวณแล้วให้ออกข้อสอบแยกกัน

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวอีกว่า แม้ปัจจุบันจะมีการตรวจสอบป้องกันการทุจริตการสอบที่เข้มงวดรัดกุมขึ้น เช่น การให้ใส่แต่กางเกงวอร์มที่ไม่มีกระเป๋าเข้าห้องสอบ การมีอุปกรณ์ตรวจจับเครื่องมือทุจริต หรือการยึดเอาโทรศัพท์และนาฬิกาไว้ แต่การทุจริตยังเกิดขึ้นได้จากวิธีการใหม่ๆ ของขบวนการทุจริต และโดยเฉพาะเมื่อผู้คุมสอบเป็นพวกเดียวกัน จะเกิดการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อไปว่า ข้อเสนอนโยบายของพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจและการป้องกันการทุจริต ที่มีหลักการสำคัญว่า ตำรวจต้องยึดโยงกับประชาชน ตรวจสอบได้โดยประชาชน และมีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ จะสามารถนำไปสู่การบรรเทาปัญหาการทุจริตเช่นนี้ลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีสัดส่วนมาจาก ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในสภา หรือการมีคณะกรรมการนโยบายความปลอดภัยสาธารณะจังหวัด ที่มีสัดส่วนจากภาคประชาชนและท้องถิ่น ร่วมในกระบวนการอนุมัติการแต่งตั้งผู้บังคับการจังหวัดที่จะมาประจำในพื้นที่ รวมทั้งการปรับให้ความก้าวหน้าทางอาชีพของตำรวจทุกคนมีความเป็นธรรม เช่น การให้นายตำรวจชั้นประทวนที่จบการศึกษาปริญญาตรี ได้สิทธิเลื่อนยศเป็นชั้นสัญญาบัตรก่อนกลุ่มอื่น การเปิดรับคนทุกเพศเข้าเรียนนายร้อยตำรวจ การรับประกันว่า ตำรวจทุกเพศจะได้รับโอกาสเลื่อนขั้นตำแหน่ง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลรัฐเกี่ยวกับกระบวนการสอบที่สามารถเปิดเผยได้ เป็นต้น

“ที่ผ่านมาการสอบต่างๆ ของตำรวจทำกันแบบกระมิดกระเมี้ยน แอบสอบ หรือปิดห้องสอบเฉพาะสำหรับบางสายทักษะ ทำให้ได้แต่คนที่กินสินบาทคาดสินบนมาอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สังคมตำรวจถึงเน่าเฟะแบบที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เราจึงต้องทำให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเปิดเผย และให้มีการแข่งขันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้นายตำรวจที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ทุจริต ไม่อยู่ในอาณัติของใครมาทำหน้าที่” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว.