เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดแถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และตำรวจ บก.ปปป. บุกรวบนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการและหน่วยงานในสังกัดว่า ในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ตนได้ให้แนวทางกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งนี้กระทรวงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และให้กำลังใจข้าราชการที่เหลืออยู่ เราทำงานแก้ปัญหาอย่างหนักหน่วงทุ่มเท ใน 3 ปีกว่าที่ผ่านมา โดยการขับเคลื่อนทั้งข้าราชการ และประชาชน เมื่อเกิดเหตุต้องดำเนินการวินัย กรอบกฎหมาย ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทุกอย่างดำเนินไปตามกฎหมาย คณะกรรมการชุดนี้ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา

“ได้ข้อสรุปว่า จะสอบผู้อำนวยการทุกสำนักเพิ่มเติม และจะออกคำสั่งให้อธิบดีมาปฏิบัติราชการที่กระทรวง แต่นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งลงนามให้ไปปฏิบัติที่สำนักนายกฯ จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาทำงานที่กระทรวง อย่างไรก็ตาม มีคนมองว่า เราออกคำสั่งล่าช้านั้น แต่เป็นเพราะผมมีภารกิจที่สำคัญ จึงไม่ทันลงนามในคำสั่ง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการที่ตั้งมาจะพิจารณาในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง จะมีสอบ สืบสาวครบทุกคน ปปป. ก็มีมาตรการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกทางหนึ่ง” รมว.ทรัพยากรฯ กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีการสอบสวนว่า เงินที่ได้มาจะส่งมอบให้ใครหรือไม่ เพราะมีความน่าเชื่อกันว่า เงินดังกล่าวนี้ ไม่ได้หยุดที่อธิบดีเพียงคนเดียว นายวราวุธ กล่าวว่า “เรื่องนี้ จะต้องทำอย่างแน่นอน การสอบสวนข้อเท็จจริงจะทำให้ครบทุกมิติ ว่า ทำอย่างไร โดยใคร จะสืบสวนให้ครบทุกคน”

เมื่อถามว่า ที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ได้ยื่นขอความคุ้มครอง จากกรณีดังกล่าวนั้น ทางกระทรวงจะทำอย่างไร หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ในเรื่องการข่มขู่นั้น ต้องขอการสนับสนุนจากตำรวจมากกว่า การเดินให้ความคุ้มครองและมีคนเดินล้อมหน้าล้อมหลัง จะทำให้เกิดกระแสดราม่าตามมา ก็ไม่อยากให้เกิดแบบนั้น แม้แต่ตัวเองก็ไม่ชอบให้ใครมาเดินล้อมหน้าล้อมหลังอยู่แล้ว ในเวลาทำงาน

เมื่อถามอีกว่าเวลานี้ ได้คุยกับนายรัชฎา หรือไม่นายวราวุธ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันโดยตรง เพราะอาจมองว่าเป็นการแทรกแซง ควรจะปล่อยให้เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน

เมื่อถามอีกว่า ในการโยกย้ายตำแหน่งหัวหน้าอุทยานเกรดเอ หรือ เอบวก ต้องมีการจ่ายเงินจำนวนมากนั้นจริงหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ ตนในฐานะรัฐมนตรี หากลงไปดูอุทยานว่า ใครควรเป็นหัวหน้าในทุกครั้งที่มีการโยกย้าย ก็จะมีข่าวออกมาอีก ดังนั้นในการแต่งตั้งโยกย้าย ระดับผู้ผู้อำนวยการ และหัวหน้าอุทยาน จะปล่อยให้เป็นอำนาจอธิบดี และปลัด เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามสายงานบังคับบัญชาอยู่แล้ว และถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วรัฐมนตรีไปดูในเรื่องโยกย้าย ก็จะไม่มีใครเชื่อหรอกว่าไปดูเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส จะเกิดดราม่าขึ้นมาอีก ขอเน้นย้ำว่าทำทุกอย่างตามขั้นตอน เสียใจ และขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า จะแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า สิ่งที่ทำอยู่ ก็เรียกว่าเป็นความรับผิดชอบ โดยจะแจ้งให้สาธารณชนทราบถึงความคืบหน้าในเรื่องการทำงานของคณะกรรมการดังกล่าวว่าไปถึงไหน ไม่หนีหายไปไหน ผู้บริหารหลายแห่ง เจอปัญหาแบบนี้ ที่มีบุคคลผิดแผกออกไป ที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายขององค์กร ในทางการเมืองก็เหมือนกัน เรื่องของปัจเจกบุคคลคาดเดาได้ยาก แต่เราต้องทำหน้าที่ดังกล่าวต่อไป.