จากกรณีมีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่หน้าบ้านในตำบลสาภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โพสต์ระบุหลังมีชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถจักรยานยนต์มากดกริ่งหน้าบ้าน เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยแจ้งกับสามีของเธอว่า ให้เธอเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจที่โรงพักในฐานะผู้เสียหายในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 1 ก.พ. เพราะเธอได้ซื้อสลากออนไลน์เกินราคากับกองสลากพลัส แต่ในวันที่ 1 ก.พ. สามีได้เดินทางไปทำงานต่างจังหวัด และมีช่างมาซ่อมเครื่องซักผ้าที่บ้าน ทำให้ต้องเลี้ยงลูก 3 คน เพียงลำพัง จึงไม่ได้เดินทางไปโรงพัก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ น.ส.ปุญนุช (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี อาชีพแม่ค้าออนไลน์ และเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวว่า หลังเหตุการณ์ที่ตำรวจบุกมาที่บ้านเมื่อค่ำวันที่ 31 ม.ค. แต่เธอไม่ได้เดินทางไปให้ปากคำตามที่ตำรวจแจ้ง เพราะไม่มีหมายเรียกและก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่ต้องการแจ้งความหรือดำเนินคดีใดๆ กับทางกองสลากพลัส เนื่องจากเต็มใจและพอใจที่จะซื้อสลากฯ ในราคา 120 บาท แม้จะรู้ว่าเกินราคา แต่สะดวกกับเธอที่ต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ไม่สามารถออกไปหาซื้อได้เอง และที่ผ่านมาก็เห็นว่ามีสลากฯ ขายเกินราคาแทบทุกแห่ง

น.ส.ปุญนุช เล่าต่อว่า กระทั่งเช้าวันนี้ ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ก็มายืนกดกริ่งที่หน้าบ้านอีก พร้อมถามเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ไปให้ปากคำตามนัดหมาย และยังพูดจาเชิงข่มขู่ด้วยว่าอาจมีความผิด เธอจึงสอบถามหาหมายเรียก แต่ชายคนดังกล่าวแจ้งว่า ต้องเดินทางไปให้ปากคำก่อนแล้วจะออกหมายเรียกให้ แต่เธอปฏิเสธบอกว่าไม่สะดวก ชายคนนี้จึงต่อสายโทรศัพท์ให้คุยกับชายอีกคน ซึ่งระบุว่าเป็นท่านรอง

มรสุมถาโถม! แจ้งข้อหา ‘CEOนอท’ ขายหวยเกินราคา ปคบ.จ่อเช็กทะเบียนพาณิชย์ซ้ำ

“ตำรวจที่ถูกเรียกว่าท่านรอง ได้บอกให้ตนเองเดินทางไปให้ปากคำและลงบันทึกประจำวันที่โรงพักในวันนี้อีกครั้ง หากไม่ไปจะเดินทางมาหาสอบปากคำที่บ้านด้วยตัวเอง แต่ตนก็ปฏิเสธไป เพราะตนเองไม่ใช่ผู้เสียหาย เนื่องจากเต็มใจซื้อ ขณะเดียวกันก็ย้อนถามไปว่า ทราบได้อย่างไรว่าเธอซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์กับกองสลากพลัส ตำรวจก็แจ้งว่าได้ข้อมูลจากการกดซื้อสลากออนไลน์และชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารกสิกรไทย จึงตอบกลับไปว่าให้ติดต่อคนอื่นแทน เพราะไม่ต้องการแจ้งความ แต่ตำรวจบอกว่า มีการสุ่มเลือกผู้เสียหายที่ซื้อลอตเตอรี่กับกองสลากพลัสตำบลละ 1 คน ในอำเภอสารภี ส่วนคนอื่นๆ ที่ถูกเรียกไปให้ปากคำ ก็เดินทางกันมาหมดแล้ว ยกเว้นเธอคนเดียวเท่านั้น” แม่ค้าสาว กล่าว

โดย น.ส.ปุญนุช ยืนยันว่า จะไม่เดินทางไปให้ปากคำหรือแจ้งความกองสลากพลัส เพราะเธอไม่ได้มีความผิดอะไร ไม่ได้เป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายและไม่ต้องการมีคดีความ ที่ผ่านมาซื้อลอตเตอรี่กับกองสลากพลัส เพราะถูกรางวัลบ่อย โดยทุกครั้งหลังถูกรางวัลไม่กี่ชั่วโมง ทางกองสลากพลัสก็โอนเงินให้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปขึ้นเงินรางวัลเอง ที่สำคัญการเรียกไปให้ปากคำหรือแจ้งความครั้งนี้ ตำรวจไม่ได้มีหมายเรียกมาเป็นทางการจึงเหมือนถูกบังคับ ขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสัยในการทำงานของตำรวจที่ไม่ชัดเจน จึงปรึกษากับสามีแล้วนำคลิปมาโพสต์ลงโซเชียล เพื่อตั้งข้อสังเกตเท่านั้น และต้องการแจ้งเตือนประชาชนที่อาจเจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันด้วย.