เมื่อวันที่ 2 มี.ค. นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการทุจริตตั้งเกณฑ์การประมูลกีดกันคู่แข่งประเคนรถไฟฟ้าสายสีส้มให้เอกชนรายเดียวว่า รู้สึกดีใจที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และประชาชนทุกคนสนใจ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่จริง เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรถไฟฟ้าสายสำคัญที่พาดยาวตั้งแต่ กทม.ฝั่งตะวันออกถึงตะวันตก มีเดิมพันเป็นผลประโยชน์ที่เป็นส่วนต่างอย่างน้อย 68,613 ล้านบาท

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ให้จับตาช่วงเวลาช่องว่างระหว่างการปิดสมัยประชุมสภาก่อนการเลือกตั้งว่า นี่คือโอกาสที่รัฐบาลจะลักไก่ นำเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้า ครม. ซึ่งอาจเป็นวันที่ 14 มี.ค. 66 ก่อนการยุบสภา 1 วัน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลักไก่ง่ายที่สุด

“โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คือตัวอย่างของการใช้กระบวนการทางกฎหมาย ทำให้กลายเป็นการ ถูกกฎหมายโดยทุจริต ซึ่งเป็นรูปธรรมของการทุจริตเชิงนโยบายที่นายกรัฐมนตรีชอบด่าอดีตนายกคนก่อน ๆ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ รู้สึกรับไม่ได้กับการทุจริตจริง ต้องไม่ยอมให้โครงการแบบนี้ผ่าน ครม. ทิ้งทวนวันสุดท้ายก่อนยุบสภา”

นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ไม่ว่ากระบวนการในทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร แต่เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ถ้ารัฐบาลมั่นใจว่าโครงการนี้ทำได้ขาวสะอาดจริง สิ่งที่รัฐบาลทำได้ทันทีคือเปิดข้อมูลออกมาให้หมด โดยเฉพาะตัวเลขผลประโยชน์ที่บริษัทที่ชนะประมูลจะแบ่งคืนรัฐว่าเสนอคืนกำไรกลับมาให้รัฐเท่าไร เมื่อเทียบกับสิ่งที่คู่แข่งเสนอในการประมูลครั้งที่ผ่านมามีส่วนต่างเกิดขึ้นจริง ๆ หรือไม่ นี่คือความรับผิดชอบทางการเมืองในการรักษาผลประโยชน์ให้กับรัฐและประชาชน