เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ จ.อุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ยังคงร่วมกันเดินสายหาเสียงในภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้าได้ลงพื้นที่หาเสียงไปกับนายอานันท์ อมรินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี พรรคก้าวไกล (อ.ศรีธาตุ, อ.ไชยวาน, อ.วังสามหมอ, อ.กู่แก้ว) โดยขึ้นรถอีแต๋นแห่ไปตามถนนสายหลักของ อ.ศรีธาตุ ก่อนร่วมกันเปิดเวทีปราศรัยที่โรงเรียนศรีธาตุวิทยาคม ท่ามกลางประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก

นายปิยบุตร ปราศรัยว่า ที่ผ่านมาจากพรรคอนาคตใหม่ มาสู่พรรคก้าวไกล เราได้พิสูจน์แล้วว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่ทำหน้าที่ในสภาได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีมวยล้มต้มคนดู อภิปรายทุกครั้งทุกคนยกให้พรรคก้าวไกลอภิปรายได้ดีเยี่ยม ไม่มีมองว่ารัฐมนตรีคนไหนเป็นเพื่อนเก่า ไม่มีมองว่ารัฐมนตรีคนไหนช่วยดูแลอยู่ รัฐมนตรีคนไหนประพฤติมิชอบพรรคก้าวไกลอภิปรายแทนประชาชนทั้งหมด พรรคก้าวไกลยังได้เสนอแนวนโยบายแทนประชาชนหลายเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องการยกเลิกเกณฑ์ทหาร พ.ร.บ.แรงงาน พ.ร.บ.บำนาญประชาชน การแก้ปัญหาที่ดิน เป็นต้น หลายกฎหมายถูกนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตีตก ถูกคว่ำร่างกฎหมาย แต่ก็สร้างแรงสั่นสะเทือน ประชาชนสนับสนุนสิ่งที่พรรคก้าวไกลผลักดันอย่างกว้างขวาง ขนาดพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านยังทำได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นรัฐบาลจะทำได้ขนาดไหน

นายปิยบุตร ยังกล่าวต่อไปว่า อุดรธานีขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดง ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาทุกยุคสมัย ปี 53 คนที่เข้าไปต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแข็งขันที่สุดก็คือคนเสื้อแดงอุดรธานี แต่การต่อสู้ในวันนั้นจบลงด้วยการปราบปรามเข่นฆ่า คนเสื้อแดงหลายคนถูกจับดำเนินคดี บาดเจ็บล้มตายกันไป ผ่านไปถึง 13 ปี วันนี้ยังไม่ชำระสะสาง นายทหารที่บัญชาการการสั่งฆ่ายังลอยนวล ไม่มีการนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย แถมยังได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรีในวันนี้

แม้แต่ พล.อ.ประวิตร ที่วันนี้เสนอตัวมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นโซ่ข้อกลางก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็เป็นผู้อำนวยการ ศอฉ. ในวันนั้น ทำหน้าที่ปราบปรามสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ถามจริงว่าพี่น้องคนเสื้อแดงยอมให้คนแบบนี้ขึ้นมามีอำนาจได้ต่อไปอย่างนั้นหรือ ใครก็ตามที่ไปร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประวิตรได้ ก็คือคนที่เหยียบหน้าคนเสื้อแดงทั้งประเทศ สำหรับพรรคก้าวไกลชัดเจนมาตลอด ว่าจะไม่เข้าร่วมกับพรรคทหารจำแลงไม่ว่าพรรคไหนทั้งนั้น ถ้า ครม. วันข้างหน้ามีพรรคทหารจำแลงอยู่ในนั้นเมื่อไร พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นฝ่ายค้านทันที

“พอกันทีกับการเมืองแบบเดิม ๆ ลูบหน้าปะจมูก ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ผ่านมา 13 ปี จากเหตุการณ์ปี 53 คนเสื้อแดงอุดรธานี ย่อมจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ ความปรองดองอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่ยิงพวกเราตายเสร็จแล้วบอกว่าโทษที ลืม ๆ กันไป ความปรองดองที่แท้จริงต้องมาจากการยอมรับความจริง ชำระสะสางเหตุการณ์ เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้”

นายปิยบุตร กล่าวว่า ใครที่ไม่อยากเห็นการเมืองเดิม ๆ แบบนี้อีกแล้ว ขอให้ร่วมกันเลือกพรรคก้าวไกลให้มาก ๆ ส.ส.พรรคก้าวไกล รวมตัวกันด้วยความต้องการเดียวเท่านั้นคือการเปลี่ยนแปลง เราต้องการ ส.ส.จำนวนมาก ๆ เพียงเพื่อไปยกมือให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไปเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ไปส่งมอบนโยบายที่ดีให้กับประชาชนเท่านั้น

ทางด้าน นายพิธา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทุกคนสามารถเลือกเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้ เพื่ออนาคต 60% ของเด็กเล็กในอุดรธานีอยู่ในครอบครัวที่ยากจน เราต้องมีรัฐสวัสดิการให้ลูกเด็กเล็กแดง คืนครูให้กับห้องเรียน ยกเลิกระบบครูเวรทันที โรงเรียนต้องเป็นที่ปลอดภัยของทุกคน เราต้องกระจายอำนาจ เพิ่มอำนาจและงบประมาณให้ท้องถิ่นทุกระดับ ยกเลิกรัฐราชการรวมศูนย์ ไม่ใช่อย่างที่ประยุทธ์ไปพูดผิด ๆ ว่าจะยุบ อบต.

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลเสนอว่า นอกจากเรื่องของปัญหาปากท้องแล้ว เรายังต้องแก้ปัญหาการเมือง รวมไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้วด้วย วันนี้ตนต้องเตือนความจำทุกคนว่า พล.อ.ประวิตร ที่วันนี้อ้างว่าต้องการมาสร้างความปรองดอง แท้จริงแล้วเป็นเพียงการฟอกขาวตัวเอง เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้น พล.อ.ประวิตร เป็นผู้สร้างมันขึ้นมากับมือ ตัวเองเป็นผู้อำนวยการ ศอฉ. เพื่อนพี่น้องผู้รักประชาธิปไตย ต้องไม่ลืมว่า ประวิตร คือคนที่มีส่วนร่วมปราบปรามประชาชนในวันนั้น

พรรคก้าวไกล ยืนยันในนโยบายการเมืองของเราว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ต้องได้รับการแสวงหาข้อเท็จจริง เอาคนผิดมารับโทษ จึงจะสร้างการปรองดองได้ พรรคก้าวไกลยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าจะเอาประเทศไทยเข้าสัตยาบัน ICC โดยไม่ต้องมีข้ออ้างรีรอใด ๆ และต้องนิรโทษกรรมประชาชนย้อนหลังถึงปี 57 ที่มีคนเสื้อแดงถูกเอาเข้าคุกดำเนินคดี มาจนถึงวันนี้ที่มีเยาวชนนักเคลื่อนไหวถูกจับกุมคุมขังอยู่ เราจะพาคนเห็นต่างทุกคนออกจากคุกให้หมด แต่จะทำเช่นนั้นได้ พรรคก้าวไกลต้องมี ส.ส.ในสภาที่มากพอ อุดรธานีคราวนี้พรรคก้าวไกลส่งครบ 10 คน 10 เขตเหมือนเดิม คราวที่แล้วพรรคอนาคตใหม่ได้มาเป็นที่สอง รอบนี้ขอที่หนึ่ง ให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลได้เข้าไปผลักดันนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปากท้องดี ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาที่ดิน นโยบายเกษตร รัฐสวัสดิการ และนโยบายการเมืองดี ที่จะยกเลิกวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล และทำให้คนเห็นต่างไม่ต้องติดคุกอีกต่อไป

“ไม่ต้องกลัวคะแนนตกน้ำ เลือกทั้งทีต้องเลือกให้ขาด เลือกให้เปลี่ยนจริง ๆ เลือกก้าวไกลให้ถล่มทลายเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนแปลงได้ เปลี่ยนให้การเมืองดี เปลี่ยนให้ปากท้องดี ให้ประเทศไทยมีอนาคค” นายพิธา กล่าว.