เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มีคำสั่ง ที่ 92/2566 เรื่องข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ โดยย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย ประกอบด้วย ร.ต.ต. ตำแหน่งรอง สว.กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี 1 นาย ด.ต. 3 นาย และ จ.ส.ต. 1 นาย ไปช่วยราชการยังศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชลบุรี โดยขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่า มีความผิดจริง จะดำเนินการตามความผิดด้านวินัยร้ายแรงต่อไป

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา มี ป้าติ๋ม (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 60 ปี นำหลักฐานการโอนเงินเข้าร้องเรียนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างตัวเป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บุกเข้าจับกุมที่บ้านพักในพื้นที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และเรียกรับเงินกว่า 30,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังหลานชายที่นับถือกัน วิ่งหลบหนีเข้ามาในบ้านพัก จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6-7 คน ปีนรั้วติดตามเข้ามาในบ้าน พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจังหวัดชลบุรี โดยไม่ได้แต่งกายเครื่องแบบตำรวจ และมีอาวุธปืนครบมือ พร้อมแจ้งว่า ป้าติ๋มถูกจับกุมในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด และหากมียาเสพติดให้นำออกมา ซึ่งจากการตรวจค้นพบของกลางเป็นไอซ์จำนวนหนึ่ง ซึ่งป้ายอมรับว่า เป็นของตนมีไว้เสพ ก่อนถูกควบคุมตัว พร้อมเด็กวัยรุ่นอีก 2 คน ไปเซฟเฮาส์ใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง และถูกคุมขังอยู่ 1 คืน

จากนั้นไม่นาน หนึ่งในชายฉกรรจ์ ได้ทำทีเข้ามาพูดคุยเสนอช่วยเหลือ โดยเรียกเงิน 50,000 บาท แต่ป้าสามารถหามาได้เพียง 31,000 บาท โดยให้ลูกชายโอนเข้าบัญชี นายวันชัย (สงวนนามสกุล) ก่อนได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา ซึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ ป้าจำใบหน้าได้เกือบทุกคน และหนึ่งในนั้นทราบชื่อว่า นายกร หลังจากถูกปล่อยตัว จึงปรึกษาญาติๆ ก่อนพาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ เนื่องจากห่วงเรื่องความปลอดภัยของตนเอง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า คนกลุ่มนี้ ไม่ใช่ตำรวจจริง เพราะว่าถ้าเป็นตำรวจจริง คงจะจับส่งดำเนินคดี ส่วนหลังจากนี้ป้ายืนยันจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

นอกจากนี้ยังพบผู้เสียหายเพิ่มอีกราย คือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เปิดเผยว่า ตนและแฟนหนุ่ม ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มนี้จับกุมมาไว้ที่เซฟเฮาส์เช่นกัน และเจอกับป้าติ๋มด้านใน ซึ่งถูกชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ ข่มขู่ให้ทำงานเชื่อมต่อผู้ใช้ยาเสพติดรายอื่น แต่ตนยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีเพียงแฟนหนุ่มเท่านั้นที่เกี่ยวข้อง ชายฉกรรจ์จึงเรียกเงินมา 100,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ ซึ่งทางญาติหาได้เพียง 60,000 บาท แต่ยังไม่ทันได้จ่ายเงิน กลุ่มชายฉกรรจ์จึงส่งตัวแฟนหนุ่มดำเนินคดีเสียก่อน และตนถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ หลังร้องเรียนได้นำตัวผู้เสียหายเข้าแจ้งความพร้อมให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อมทั้งหมด เก็บรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด พร้อมรายงานให้ พล.ต.ต.กัมพล รับทราบ กระทั่งมีคำสั่งให้ย้ายตำรวจทั้ง 5 นายดังกล่าว.