เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 เม.ย. ที่โรงแรมเดอะ เดวิส บางกอก ซอยสุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง สวมชุดดำ มีผ้าเทปสีดำปิดปากและใช้ผ้าสีดำปิดตา แถลงกรณีพรรคภูมิใจไทย ยื่นฟ้องศาลแพ่งให้คำสั่งคดีหมายเลขดำที่ พ.1650/2566 ลงวันที่ 5 เม.ย. 66 ระบุว่า “ห้ามจำเลยกล่าวหรือแสดงการกระทำด้วยวิธีใดๆ เฉพาะเรื่องกัญชาที่เกี่ยวข้องกับโจทก์ ในระหว่างการพิจารณา จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายที่โจทก์ อาจได้รับต่อไปเนื่องจากการกระทำของจำเลย” โดยนำมาติดที่หน้าประตูบ้านของนายชูวิทย์ เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (5 เม.ย.)

เอาแล้ว! ศาลสั่งห้าม ‘ชูวิทย์’ พูดเรื่องกัญชาพาดพิงภูมิใจไทย

นายชูวิทย์ ระบุว่า เมื่อพรรคการเมืองนำนโยบายกัญชา ซึ่งเป็นนโยบายสาธารณะ มาใช้กับประชาชน โดยไม่ได้ผ่านกฎหมายลูก ไม่มีการโหวตในรัฐสภา ไม่มีการทำประชาพิจารณ์ มีเพียงประกาศคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่กัญชาเสรีเป็นนโยบายที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่พรรคภูมิใจไทยกลับเสนอเพียงข้อดี ตนในฐานะประชาชน ก็มีสิทธิเสรีภาพในการที่จะพูดข้อเสีย เพื่อผลประโยชน์ของสังคม ไม่ได้ไปก้าวล่วงหรือละเมิด ไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสี เพราะตนเองไม่ใช่ผู้สมัครพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองกลับละเมิดสิทธิเสรีภาพของตน

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า หากการปลดล็อกกัญชาซึ่งเป็นยาเสพติด เพื่อใช้ในทางการแพทย์ ก็ควรต้องให้แพทย์เป็นผู้อนุญาต แต่เหตุใดการขึ้นทะเบียนกัญชา จึงมีลักษณะเสรี มีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 4,000 แห่ง ในกรุงเทพฯ และไม่รวมในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 10,000 แห่ง โดยหลายๆ ที่ สามารถนำกัญชามาทำอาหารได้ หรือเพื่อสันทนาการ บางสถานที่เป็นเพียงซุ้มกาแฟ ก็ยังอนุมัติ นอกจากนี้ กัญชาส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ ยังเชื่อว่านำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา จึงต้องตั้งคำถามว่า นำเข้ามาได้อย่างไร

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังอ้างอิงผลวิจัยจากสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย และงานวิจัยจากในต่างประเทศ ระบุว่า กัญชาส่งผลให้ผู้เสพเป็นโรคจิตเภทมากกว่าคนปกติ 2-3 เท่า และมีฤทธิ์เฉียบพลัน ทำให้ผู้เสพเกิดอาการคลุ้มคลั่งได้ ดังที่เคยมีข่าวผู้เสพกัญชาคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ในห้วงที่ผ่านมาแล้วหลายคดี แต่เหตุใดกระทรวงสาธารณสุข จึงไม่ออกมาเตือนและควบคุม ดังนั้น แม้ตนจะเคารพคำสั่งศาล แต่หลังทบทวนไตร่ตรองอย่างดีแล้ว จึงตัดสินใจที่จะไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลแพ่งในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) เวลา 09.00 น. ต่อเนื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ว่าผลการอุทธรณ์จะออกมาในทิศทางใด ตนก็พร้อมจะทำตามคำสั่งศาล แต่เป็นในแบบของตนเอง ด้วยการคัดค้านนโยบายกัญชาเสรีต่อไป โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จะไปรณรงค์ที่สถานีขนส่งหมอชิต ส่งประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และจะเริ่มรณรงค์ในพื้นที่ต่างจังหวัด ตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป

นายชูวิทย์ ยืนยันอีกว่า นโยบายกัญชา เป็นนโยบายสาธารณะ ที่พรรคการเมืองใช้ในการหาเสียง และพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่บุคคลหรือนิติบุคคล ดังนั้น ตนจึงสามารถวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นดังกล่าวได้ ซึ่งถ้าหากทางพรรคภูมิใจไทยจะโจมตีตอบโต้ ตนก็พร้อมสู้