นับเป็นข่าวที่สร้างความตกใจสุดสะเทือนขวัญ พร้อมกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงไปทั่วทั้งสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกมาเปิดเผยถึงคดีของ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ “แอม” ภรรยาของนายตำรวจจังหวัดราชบุรี ผู้ต้องหาคดี ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังพบสารพิษในร่างกายของเพื่อนสาว ซึ่งภายหลังยังพบว่า พฤติกรรมของ น.ส.แอม ไปเกี่ยวโยงกับการเสียชีวิตปริศนาของบุคคลอีก 14 ราย ที่มีลักษณะเดียวกัน ดังที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. แฟนเพจชื่อดังอย่าง “Drama-addict” ได้ออมากเปิดเผยข้อมูลของฆาตกรต่อเนื่องหญิงรายแรกของอินเดีย โดยเธอได้ใช้ “ไซยาไนด์” มาพรากชีวิตของเหยื่อผู้โชคร้าย โดยระบุว่า “ไซยาไนด์ มัลลิกา ฆาตกรต่อเนื่องหญิงรายแรกของอินเดีย” ชื่อจริงของเธอคือ เค.ดี.เคมปามมะ รูปร่างหน้าตาภายนอก เธอก็ดูเหมือนหญิงวัยกลางคนทั่วไปที่ร่าเริงใจดี แต่สิ่งที่เธอทำลงไป โxตรน่าสะพรึง

เหตการณ์นี้เกิดขึ้นที่บังกาลอร์ อินเดีย ในช่วงปี 2541-2550 มีผู้หญิงอินเดีย หลายราย ตายอย่างผิดปรกติที่บริเวณชานเมือง คือจู่ๆ ก็ตาย ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศใดๆ ยิ่งสามรายหลัง เกิดขึ้นในช่วงกระชั้นมาก คือสามเดือน ปาเข้าไปห้าศพ ตำรวจจึงเข้ามาทำการสอบสวนอย่างจริงจัง จนกระทั่งพบผู้ต้องสงสัย คือ เคมปามมะ เธอเป็นคนอินเดียที่เกิดมาในครอบครัวฐานะยากจน ซึ่งนั่นทำให้เธออยากร่ำรวย อยากมั่งคั่ง โดยไม่สนใจวิธีการ

เมื่อเข้าสู่วัยสาว เธอแต่งงานกับสามีที่เป็นช่างตัดเสื้อ มีลูกกับสามีคนนี้สามคน ฐานะความเป็นอยู่ ยังไม่ถือว่าร่ำรวย เธอก็เลยไปตั้งกองทุน (เท่าที่อ่านรายละเอียด ถึงชื่อจะเรียกว่า กองทุน แต่รูปแบบคล้ายๆ วงแชร์บ้านเราอ่ะ) แล้วไปชวนคนแถวบ้านมาร่วมลงทุน ปรากฏว่าเจ๊งบ๊ง ผัวก็หนีไปเพราะเธอเจ๊ง ทิ้งลูกสามคนไว้ให้เธอเลี้ยงดู เธอก็ไปรับจ๊อบเป็นคนรับใช้ในบ้านคนมีเงิน ซึ่งเธอก็แอบขโมยของในบ้านคนมีเงินเหล่านั้นไปขายหาเงินใช้เรื่อยๆ

แต่จุดเริ่มต้นของการก่อเหตุคือ เธอสังเกตว่ามีผู้หญิงมาไหว้พระที่วัดแถวบ้านเธอบ่อย ซึ่งส่วนมากผู้หญิงที่มาวัด ก็มักจะมีปัญหาชีวิต ต้องการหาที่พึ่ง เธอจึงเข้าไปตีสนิทกับผู้หญิงเหล่านั้น ชวนคุย ซักปัญหาชีวิต และช่วยให้คำแนะนำ จนเหยื่อเริ่มไว้วางใจ และบอกเหยื่อว่า เดี๋ยวจะพาไปทำพิธีกรรมแนวๆ แก้เคล็ด ล้างซวยให้ถึงบ้าน พอไปทำพิธีที่บ้าน ระหว่างเหยื่อกำลังเผลอ เธอก็ยกเค้าบ้านเหยื่อแม่งเลย แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด มีเหยื่อที่จับเธอได้คาหนังคาเขา ตอนเธอกำลังยกเค้า เลยเรียกตำรวจมาจับ จนโดนคุกไปหกเดือน

หลังออกจากคุกมา เธอก็ยังทำแบบเดิม เพิ่มเติมคือ ไซยาไนด์ คือรอบนี้ ไม่ได้แค่ยกเค้าอย่างเดียวแล้ว แต่เธอผสมไซยาไนด์ในน้ำและอาหารให้เหยื่อกินระหว่างที่กำลังทำพิธีแก้กรรม โดยไซยาไนด์ที่เธอได้มานี่ ก็ไปฉกมาจากร้านขายเครื่องประดับ ที่เขาใช้สารเคมีพวกนี้ในการทำความสะอาดอัญมณี

เหยื่อแต่ละคนที่โดนมีจุดร่วมกันคือเป็นหญิงที่มาไหว้พระที่วัด เพราะกำลังมีปัญหาชีวิต บางคนก็มีปัญหาครอบครัว บางคนอยากมีลูก สุดท้ายพอเจอป้าหน้าตาใจดี เข้ามาชวนคุยแบบมีมิตรไมตรี ก็ไว้ใจ สุดท้ายก็ถูกกรอกไซยาไนด์ตาย แล้วขโมยทรัพย์สินเหยื่อไปใช้ หลังถูกตำรวจจับกุม มีญาติของผู้สูญหายอีกห้าคนเข้าให้การว่าญาติของเขาอาจจะถูกเคมปามะฆ่าตายเหมือนกัน เพราะทั้งห้าคนรู้จักกันเคมปามะและพบกับเคมปามะก่อนที่จะหายสาบสูญไป

“เคมปามะถูกตัดสินประหารชีวิตปี 2555 แต่ได้รับการลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต ปัจจุบันยังใช้ชีวิตอยู่ในคุกที่อินเดีย”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Drama-addict