เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 พ.ค. พ.ต.ท.นุรัตน์ จันทะคุณ สารวัตรสอบสวน สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งมีเหตุผัวยิงเมียเจ็บ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวตาย บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 514 หมู่ 1 บ้านห้วยหิน ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จึงรายงาน พ.ต.อ.วรานนท์ บุราณรมย์ ผกก.สภ.สนามชัยเขต ทราบ ก่อนรุดตรวจสอบพร้อมด้วย กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ฉะเชิงเทรา แพทย์เวรโรงพยาบาลสนามชัยเขต และหน่วยกู้ภัยพนม จุดสนามชัยเขต

ที่เกิดเหตุพบเป็นถนนลูกรังเชื่อมถนนหลักบริเวณประตูรั้วหน้าบ้าน พบผู้ตายทราบชื่อนายเฉลิมพล กำเหนิดสุข อายุ 42 ปี มีอาชีพทำสวน พักอาศัยบ้านเลขที่ 514 หมู่1 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงศีรษะตัวเองฝั่งขวาทะลุฝั่งซ้าย นอนจมกองเลือดพร้อมกับอาวุธปืนและปลอกกระสุนตกอยู่ข้างกาย 1 ปลอก ส่วนปลอกกระสุนอีกสองนัด กระจัดจายออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายยังได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน ยิงภรรยาตัวเอง 2 นัด กระสุนเจาะเข้าช่องท้อง ซึ่งผู้บาดเจ็บได้วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ให้นำตัวส่งโรงพยาบาลสนามชัยเขตไปก่อนหน้า อาการสาหัส ทราบชื่อนางวรพรรณ กำเหนิดสุข อายุ 43 ปี เป็นพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

นายชูชีพ สุนทรวิภาต อายุ 45 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ชาวบ้านได้ยินเสียงปืน 3 นัด จากบ้านของผู้ก่อเหตุ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะตัวผู้ก่อเหตุนั้นชอบยิงปืนเล่นเป็นประจำ หลังจากนั้นก็เห็นทางภรรยาของผู้ก่อเหตุ วิ่งมาขอความช่วยเหลือให้พาไปส่งโรงพยาบาล และทางผู้ก่อเหตุก็จะตามออกมาเพื่อยิงภรรยาซ้ำ แต่ได้มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ห้ามไว้ ผู้ก่อเหตุเห็นว่าคนออกมาเยอะ ก็เลยตัดสินใจยิงเข้าที่ขมับตัวเองหงายหลังล้มลงกับพื้นเสียชีวิต ต่อหน้าต่อตาชาวบ้าน

ด้าน พ.ต.ท.นุรัตน์ จันทะคุณ กล่าวว่า จากการซักถามญาติเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุทางผู้บาดเจ็บได้โทรฯ ไปหาทางญาติว่า ให้มาช่วยเคลียร์ปัญหากับทางผู้ก่อเหตุ แต่พอญาติมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้บอกกับทางผู้บาดเจ็บว่าเดี๋ยวเข้าไปคุยให้ แต่ทางผู้บาดเจ็บก็บอกกับญาติว่าเดี๋ยวจะเข้าไปคุยเอง จากนั้นผู้บาดเจ็บก็ได้เดินไปในบ้าน หลังจากนั้นพอเข้าไปถึง ทางผู้ก่อเหตุก็ได้ยิงไล่ออกมาจำนวน 3 นัด ผู้บาดเจ็บก็ได้วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแถวนั้น ให้พาไปส่งโรงพยาบาล ส่วนสาหเตุแรงจูงใจน่าจะมาจากปัญหาครอบครัวและเครียดเรื่องสุขภาพ จึงก่อเหตุขึ้น

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บหลักฐานวัตถุพยานแวดล้อม เพื่อประกอบสำนวนคดี ก่อนให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพนม นำศพผู้เสียชีวิต ดำเนินการส่งญาติให้ประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.