เหตุการณ์ยิงสุนัข 2 ตัว จนตายต่อหน้าต่อตาเจ้าของในบริเวณทางสัญจรติดกับคลองแห่งหนึ่ง ในเขตลอนดอนตะวันออก เมื่อต้นเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าตำรวน 2 นายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวต้องเข้ารับการสอบสวนว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่

การสอบสวนครั้งนี้ เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่เจ้าของสุนัขต้องไปขึ้นศาล ในข้อหามีสุนัขอันตรายในครอบครอง หลังจากที่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้ปืนช็อตไฟฟ้าจี้ใส่ 

โฆษกของสำนักงานอิสระเพื่อสอบสวนกิจการตำรวจกล่าวว่า ทางหน่วยงานสามารถยืนยันได้ว่า กรมตำรวจมหานครลอนดอน ให้ความร่วมมือและเจ้าหน้าที่ 2 นาย ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตพอพลาร์ กรุงลอนดอน ก็ยินดีเข้ากระบวนการสอบสวนเหตุการณ์ซึ่งมีชาย 1 คน โดนเจ้าหน้าที่ช็อตด้วยปืนไฟฟ้าและสุนัข 2 ตัว โดนยิงตาย เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2566 

เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย กำลังอยู่ระหว่างรอคำสั่งว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรต่อไป

คลิปเหตุการณ์ยิงสุนัขทั้งสองนั้น ได้รับการเผยแพร่ไปบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หลายแห่ง ซึ่งปรากฏภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่ง ไล่ติดตามชายคนหนึ่งที่จูงสุนัข 2 ตัว ด้วยสายจูงขนาดสั้น อยู่ที่บริเวณริมคลองของช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค. 2566

สถานการณ์ในคลิปทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งชายเจ้าของสุนัข โดนตำรวจใช้ปืนช็อตไฟฟ้าจี้ใส่จนล้มลงกับพื้น และสุนัขของเขาก็โดนยิงตายที่ตรงนั้นเอง

ชายเจ้าของสุนัขในคลิปคือ ลูอี เทิร์นบูลล์ วัย 46 ปี โดนจับกุมและตั้งข้อหาครอบครองสุนัขอันตราย โดยที่ไม่มีคุณสมบัติหรือได้รับอนุญาต รวมทั้งไม่สามารถควบคุมสุนัขในความดูแลได้ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2566

กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อพิทักษ์สัตว์กลุ่มเล็ก ๆ ได้ไปร่วมกันประท้วงพร้อมกับสุนัขของพวกเขา ที่บริเวณด้านนอกของสถานีตำรวจเขตไลม์เฮาส์ กรุงลอนดอน หลังจากข่าวยิงสุนัขเผยแพร่ออกไป 

กรมตำรวจมหานครลอนดอนกล่าวในแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2566 นั้น เนื่องมาจากมีผู้โทรศัพท์แจ้งเหตุเข้ามาและรายงานว่า มีหญิงคนหนึ่งโดนสุนัขไล่ทำร้ายที่บริเวณถนนคอมเมอร์เชียล  

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามหาตัวหญิงคนดังกล่าวจนพบ ซึ่งต่อมาเธอก็แจ้งเพิ่มเติมอีกว่า มีสุนัข 2 ตัว ทำร้ายสุนัขของเธอ สุดท้ายสุนัขทั้ง 2 ตัว ก็โดนกำจัด ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าของสุนัขที่ดุร้ายทั้ง 2 ตัว ก็โดนจับกุม ณ ที่เกิดเหตุ

กรมตำรวจลอนดอนยืนยันว่า การสอบสวนเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ กระทำโดยการทบทวนเหตุการณ์อย่างละเอียด รวมทั้งตรวจสอบคลิปวิดีโอจากกล้องติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ร่วมด้วย ซึ่งสรุปได้ว่า ไม่พบเหตุอันไม่สมควรใด ๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ 

แหล่งข่าวและเครดิตภาพ : standard.co.uk