สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ว่าองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงครั้งใหม่ในเฮติ ซึ่งทวีความรุนแรงตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จากการที่แก๊งอาชญากรรมตระเวนโจมตีทรัพย์สินของรัฐ รวมถึงเรือนจำอย่างน้อยสองแห่ง ส่งผลให้นักโทษหลบหนีออกไปมากกว่า 3,800 คน ว่าตอนนี้ชาวเฮติราว 362,000 คน กลายเป็นผู้ไร้ถิ่นฐานภายในประเทศ

WSJ News


ขณะเดียวกัน แก๊งอาชญากรรมยังพยายามโจมตีทำเนียบประธานาธิบดี และสำนักงานตำรวจอีกหลายแห่ง หลังสามารถกดดันให้รัฐบาลต้องปิดท่าอากาศยานและท่าเรือ ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ อย่างไรก็ดี หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงของเฮตินำโดยกองกำลังตำรวจ ยังคงสามารถต้านทานเอาไว้ได้ โดยยืนยันว่า สามารถสังหาร “กลุ่มโจรหลายสิบราย”


ทั้งนี้ สถานการณ์ในเฮติอยู่ในสภาพไร้ขื่อแปอย่างหนัก นับตั้งแต่เกิดการลอบสังหารประธานาธิบดีโฌเวเนล โมอิส เมื่อปี 2564 ซึ่งทุกฝ่ายในเฮติยังไม่สามารถเฟ้นหาบุคคลดำรงตำแหน่งแทนได้ เฮติจึงอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลรักษาการนับจากนั้น ภายใต้การนำของนายอาเรียล อ็องรี นายกรัฐมนตรี


อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ สถานะของอ็องรียังไม่เป็นที่แน่ชัด และตอนนี้ยังไม่สามารถเดินทางกลับเข้าเฮติได้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนเคนยา เมื่อต้นเดือนนี้ แม้ทางการเปอร์โตริโกยืนยันว่า เครื่องบินส่วนตัวของอ็องรีลงจอดที่สนามบิน แต่ปฏิเสธให้ข้อมูล ว่าผู้นำเฮติยังอยู่ที่นี่ หรือเดินทางออกไปแล้ว


ด้านแหล่งข่าวในรัฐบาลวอชิงตันเปิดเผยว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ สนทนาทางโทรศัพท์กับอ็องรี เกี่ยวกับ “ความเร่งด่วน” ของการถ่ายโอนอำนาจทางการเมือง โดยไม่มีการระบุอย่างชัดเจน ว่าตอนนี้ผู้นำเฮติอยู่ที่ใด แต่ยังคงไม่มีการใช้คำว่า “ลาออก” ซึ่งเป็นเงื่อนไขหลักของบรรดาแก๊งอาชญากรรม โดยเฉพาะแก๊ง “จี9” ของนายจิมมี เชอริซิเยร์ หรือ “บาร์บีคิว” อดีตตำรวจที่กลายมาเป็นหัวหน้าแก๊ง


อนึ่ง เชอริซิเยร์ กล่าวว่า ตราบใดที่อ็องรียังไม่ยอมลาออก สถานการณ์จะยิ่งวุ่นวายและเลวร้ายจนยากเกินควบคุม และอาจลุกลามบานปลายกลายเป็นเหตุนองเลือกด และสงครามกลางเมือง.

เครดิตภาพ : AFP