หลอเซเคียว ชายชาวมาเลเซีย วัย 85 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ตามลำพังกับสุนัขสุดรักของเขา ล้มหมดสติ หลังจากที่พยายามยื้อแย่งตัวสัตว์เลี้ยงของเขาจากทีมดักจับสุนัข ที่ทางเทศบาลเขตในเมืองเบนตง ส่งมาที่บ้านของเขา เมื่อวันที่ 24 พ.ค.66

ตามคำบอกเล่าของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ สุนัขของชายสูงวัยนั้นอยู่ในเขตบ้านของเขา เมื่อทีมดักจับสุนัขมาถึงในละแวกบ้านของ หลอ ตอนเวลาประมาณ 17.00 น. และตรงมายังบ้านของชายชรา สุนัขของเขาวิ่งออกมาที่ประตูรั้วบ้าน จากนั้นทีมก็ใช้อุปกรณ์ห่วงคล้องและไม้ดักจับสุนัขของ หลอ ไป

บริเวณบ้านของคุณปู่หลอ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ
สุนัขสุดรักของคุณปู่

ชายชราซึ่งกลัวว่าจะต้องสูญเสียสุนัขสุดที่รักของเขาไป รีบวิ่งออกมาจากบ้านและขอร้องทีมงานให้ปล่อยสุนัขของเขา เพื่อนบ้านของชายชราเล่าว่า เขามองเห็น หลอ ยื้อไม้คล้องตัวสุนัขของทีมงานไว้แน่น ในขณะที่ทีมงานก็ไม่ยอมปล่อยสุนัข 

หลังจากยื้อแย่งกันได้ไม่นาน ชายชราก็ล้มลงกับพื้น แม้จะมีการเรียกรถพยาบาลและทีมกู้ชีพมายังที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่สามารถฟื้นชีวิตของชายชรากลับคืนมาได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ประกาศว่าคุณปู่วัย 85 ปี เสียชีวิตแล้ว ณ ที่เกิดเหตุ

ต่อมา มีรายงานจากหน่วยงานสาธารณสุขของเมืองว่า สภาเมืองเบนตง ได้ดำเนินการแจ้งความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

เพจเฟซบุ๊ก Malaysian Dogs Deserve Better ได้นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาโพสต์ พร้อมกับภาพกำหนดการงานศพของคุณปู่หลอ แม้จะไม่ได้มีการแจ้งสาเหตุที่ชัดเจนของการจับสุนัขในครั้งนี้ แต่โพสต์ดังกล่าว ก็ได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดในหมู่ชาวเน็ต เกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าของสุนัขและทีมดักจับสุนัข ในการปฏิบัติการจับสุนัขของมาเลเซีย 

นอกจากนี้ยังมีผู้มาแสดงความเห็นที่โพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนเกือบ 600 ข้อความ ขณะที่มีผู้แชร์โพสต์ออกไปมากกว่า 1,500 ครั้ง โดยส่วนใหญ่เป็นการแสดงความเห็นเชิงตำหนิการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และแสดงความเห็นใจและไว้อาลัยแก่คุณปู่ผู้ล่วงลับ 

ไอรีน โลว์ ผู้อำนวยการโครงการช่วยเหลือสุนัขของ Malaysian Dogs Deserve Better แสดงความกังวลและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประเมินและปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติงานเสียใหม่

หลังจากเกิดเหตุสะเทือนใจดังกล่าว ทางด้าน ยัง ซีฟูรา โอทแมน ส.ส.หญิงของมาเลเซีย ก็เรียกร้องให้มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการดักจับสุนัข เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุน่าสลดใจเช่นนี้อีก รวมทั้งช่วยลดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่กับเจ้าของบ้าน หรือผู้ดูแลสัตว์

สำหรับอนาคตของสุนัขสุดที่รักของคุณปู่หลอนั้น ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ เพราะแม้ว่ามันจะยังคงอยู่อาศัยในบ้านของคุณปู่ แต่บรรดาลูกหลานของชายชรา ก็ได้เดินทางกลับบ้านของพวกเขาที่อยู่ในรัฐอื่นไปแล้ว โดยที่ไม่ได้จัดการใด ๆ เกี่ยวกับอนาคตของสุนัขตัวนี้เลย อีกทั้งลูกชายของคุณปู่ ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น โดยขอให้เห็นแก่ความเป็นส่วนตัวของครอบครัวด้วย

แหล่งข่าว : nextshark.com

เครดิตภาพ : Facebook / Malaysian Dogs Deserve Better