เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยังเดินหน้าให้ตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จากกรณีถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี ซึ่งอาจทำให้พรรคพลังประชารัฐถูกเชื่อมโยงมีส่วนเกี่ยวข้อง ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของนายเรืองไกร ไม่ใช่มติพรรคพลังประชารัฐ พรรคไม่มีมติอะไร จึงไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ เมื่อถามย้ำว่าจะเรียกนายเรืองไกรมาสอบถามหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของนายเรืองไกร

ผู้สื่อข่าวถามว่าการดำเนินการของนายเรืองไกร ไม่เกี่ยวกับการตั้งจัดตั้งรัฐบาล ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยวๆ เมื่อถามย้ำว่าการที่นายเรืองไกรระบุว่าได้ขอคำปรึกษาจากผู้ใหญ่นั้น หมายถึงใคร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผู้ใหญ่มีตั้งหลายคน

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร มีชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 มีโอกาสหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ส่ายหัว พร้อมกล่าวว่า ไม่มี ตอนนี้เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาล เมื่อถามย้ำว่าถ้าพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เหตุยังไม่ถึง จะมาบอกว่า “ถ้า” ไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเขา เพราะเขาเป็นพรรคที่ได้ ส.ส. เป็นอันดับที่ 1

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ประเทศไทยเตรียมประสานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ขอเลื่อนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ในเดือน พ.ย. นี้ โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อ้างว่าอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ว่าให้สอบถามจาก กกท. เพราะรับผิดชอบด้านการกีฬา