เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ 20 มี.ค. ตามกรอบต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ภายใน 60 วัน หรือวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ด้วยบางคนเอกสารไม่พร้อม เนื่องจากต้องขอเอกสารรับรองจากทางราชการ อีกทั้งเอกสารค่อนข้างมากต้องเตรียมตัว รวมถึงบางคนลงสมัครรับเลือกตั้งต่อ จากที่ติดตามสอบถาม ส.ส.ของพรรคบางคนขอขยาย 30 วัน ตามกฎหมาย หรือภายในวันที่ 18 มิ.ย.นี้

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จากที่ติดตาม ส.ส.พรรคจำนวนเกินกว่าครึ่งมากกว่า 25 คน ได้ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินไปแล้ว มีเพียงบางคนที่ติดเรื่องเอกสาร แต่ทางพรรคได้ย้ำแจงเรื่องกรอบการยื่นที่จะสิ้นสุดในวันที่ 18 มิ.ย. 66 พร้อมยืนยัน อดีต ส.ส.ของพรรค จะยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินภายในวันที่ 16 มิ.ย. 66 ที่สำนักงาน ป.ป.ช. จ.นนทบุรี หรือสำนักงาน ป.ป.ช. แต่ละจังหวัด โดยปกติการยื่นบัญชีทรัพย์สิน เป็นเรื่องที่ ส.ส.แต่ละคนจะยื่นเองโดยส่วนตัว

ส่วนเรื่องขั้นตอนของกรอบกฎหมาย หากคดีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องหุ้นไอทีวีไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ หากศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว ก่อนโหวตนายกฯ ในรัฐสภา จะไม่กระทบต่อการเสนอชื่อนายพิธา ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 แต่หากนายพิธาได้รับการโหวตนายกฯ แล้ว จากนั้นมีคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น และเชื่อว่าจะไม่เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น อีกทั้งส่วนตัวเชื่อมั่นว่าสำนวนคดีอาจจบในชั้นสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากพิสูจน์ได้ว่า บริษัทไอทีวี ไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อแล้ว และมีคำสั่งต่างๆ ที่ชัดเจนตั้งแต่ปี 50

ขณะนี้เรื่องยังไปไม่ถึงศาล เพราะยังอยู่ในชั้น กกต.รวบรวมข้อเท็จจริง ซึ่งตอนนี้ กกต.ยังไม่ได้เชิญนายพิธาเข้าไปชี้แจง และทางพรรคพร้อมชี้แจงในทุกประเด็น หรือหาก กกต.มีพยานหลักฐานนำไปสู่กระบวนการของศาล อาจมีการแจ้งความฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งกระบวนการอาจไม่ได้แล้วเสร็จก่อนเลือกนายกฯ ในรัฐสภา

นอกจากนี้ หากมีการเข้าชื่อกันของ ส.ส. หลังมีการรับรอง ส.ส.แล้ว เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ พรรคก็เตรียมความพร้อมในแง่ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และสิ่งที่พิสูจน์หลายวันที่ผ่านมา โดยยืนยันได้ว่า นายพิธาและพรรคก้าวไกล แสดงความบริสุทธ์ใจในเรื่องนี้ จึงไม่มีความกังวลการถือหุ้นไอทีวี ที่ไม่ใช่สื่อมานานแล้ว

สำหรับหลักฐานคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นนั้น ทางพรรครับทราบมาระดับหนึ่งว่ามีการบันทึกข้อมูลไว้ แต่ขอบคุณที่มีการเปิดเผยในเชิงรายละเอียด ทำให้เห็นข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มขึ้น จากนี้จะมาดูว่าคลิปมีที่มาที่ไปอย่างไร จะเป็นประโยชน์ในการนำเข้ามาประกอบการพิจารณาหรือไม่