สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ว่า หน่วยงานของรัฐและรัฐบาลกลางออสเตรเลีย กำลังตรวจสอบวัตถุปริศนาดังกล่าว ซึ่งยังไม่มีการปักใจเชื่อว่ามาจากเครื่องบินพาณิชย์ และมันอาจเป็นอันตราย ด้วยเหตุนี้ ตำรวจจึงขอความร่วมมือให้ประชาชนรักษาระยะห่าง เพื่อความปลอดภัย

“พวกเราต้องการสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนว่า เรามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งของรัฐและรัฐบาลกลาง เพื่อระบุแหล่งที่มาและลักษณะของวัตถุนี้” ตำรวจออสเตรเลีย กล่าวเพิ่มเติมในแถลงการณ์ว่า หน่วยงานที่กล่าวถึงมีกองทัพ และองค์การอวกาศออสเตรเลีย (เอเอสเอ) รวมอยู่ด้วย

ออสเตรเลียน บรอดแคสติง คอร์ปอเรชั่น (เอบีซี) ซึ่งเป็นบริษัทกระจายเสียงของออสเตรเลีย รายงานว่า ผู้อยู่อาศัยบริเวณชายหาดกรีนเฮด ให้ข้อมูลว่า วัตถุลึกลับมีลักษณะเป็นทรงกระบอก กว้างราว 2.5 เมตร และยาวประมาณ 2.5-3 เมตร

ด้านนายเจฟฟรีย์ โทมัส ผู้สันทัดกรณีด้านการบิน กล่าวว่า วัถตุปริศนาดังกล่าวอาจเป็นถังเชื้อเพลิง จากจรวดที่ตกในมหาสมุทรอินเดีย ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยเอเอสเอ ระบุในทำนองเดียวกันว่า มันอาจเป็นกระบอกสูบที่ร่วงลงมาจาก “ยานส่งจรวดของต่างประเทศ” และจะประสานงานกับหน่วยงานระหว่างประเทศแห่งอื่นต่อไป ซึ่งหากมันเป็นถังเชื้อเพลิงจริง ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า มันอาจมาจากจรวดของอินเดีย และอาจมีวัตถุที่เป็นพิษเช่นกัน

มีการคาดเดาด้วยว่า วัตถุทรงกระบอกข้างต้นอาจเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบินเอ็มเอช 370 ซึ่งสูญหายนอกชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย เมื่อเดือน มี.ค. 2557 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คน แต่โทมัสโต้แย้งว่า “เป็นไปไม่ได้”

“มันไม่ใช่ชิ้นส่วนใด ๆ ของเครื่องบินโบอิ้ง 777 อีกทั้งเที่ยวบินเอ็มเอช 370 สูญหายไปนานราว 9 ปีครึ่งแล้ว ดังนั้นมันควรผุพังและเสียหายมากกว่านี้” โทมัส กล่าวทิ้งท้าย.

เครดิตภาพ : CNN