เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึง กรณีที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีมติให้ตนเป็นผู้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี รอบ 2 โดยตนมองว่าเป็นสปิริตของพรรค และความภาคภูมิใจ แต่ที่ตนเป็นห่วงและต้องมาลุ้นกันก็คือเรื่องการตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ซึ่งยังมีความคิดแบ่งกันออกเป็น 2 ฝ่าย ที่ฝั่งหนึ่งบอกว่าไม่สามารถเสนอชื่อบุคคลเดิมได้อีก ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าไม่ขัดเพราะเป็นคนละหมวดกัน ซึ่งเรื่องนี้คาดว่าประธานรัฐสภา จะรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะจบลงที่ประธานรัฐสภาวินิจฉัย หรือความเห็นของสมาชิก ซึ่งถ้าหากผ่านด่านนี้ไปได้นั้น ก็เข้าสู่ขั้นตอนการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าหากไม่ผ่านก็ต้องปิดประชุม และเลื่อนไปโหวตในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากหลังจากนี้จะยังจับมือกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล และยังเป็นการตัดสินใจร่วมกันอยู่ดี ยังยืนยันว่ายังไม่มีแนวความคิดที่จะดึงพรรคการเมืองอื่นเข้ามา ขอให้ผ่านการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 นี้ไปก่อนและ 8 พรรคร่วมค่อยมาพูดคุยกัน

เมื่อถามถึง กรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ออกมาระบุว่า ให้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ไปทาบทามพรรคการเมือง 1 ให้รวมเป็น 9 พรรค และเสนอให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อฝ่าด่าน ข้องบังคับการประชุมสภา ม.41 ให้เกิดเป็นญัตติใหม่ นายสุทิน มองว่า เป็นแนวคิดที่ดี แล้วฝ่ายที่จะผลักดันตามข้อบังคับข้อที่ 41 ก็ควรจะทำการขอเสียงหรือการประสานงานกันเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรเสียหาย เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราก็อยากให้ผ่าน และพรรคเพื่อไทยยืนยัน เราก็อยาก ให้มีการโหวตนายกรัฐมนตรีภายในวันนี้ 

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้าชิงในวันนี้เลยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มี ในวันนี้ยังคงยืนยันที่จะสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป และถ้าเกิดไม่ผ่านข้อบังคับที่ 41 ประธานรัฐสภา ก็จะปิดประชุม 

เมื่อถามว่า ในครั้งนี้ จะเหนื่อยกว่าครั้งแรก ที่โหวตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ค. หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็อาจจะเหนื่อยกว่า เหนื่อยที่ต้องมาสู้กันในเรื่องของความเห็นข้อบังคับที่ 41 เป็นความเห็นที่ก้ำกึ่งเป็นความเห็นที่มีความก้ำกึ่ง เพราะขนาดทีมกฎหมายของสภา ก็ยังมีความเห็นออกเป็น 2 ทาง 

เมื่อถามว่า ส่วนที่มองว่า ส.ส. และ ส.ว. จะมีความเห็นโหวตข้อบังคับที่ 41 ออกมาในทิศทางใดนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ตนมองว่าทุกคนมีอิสระทางความคิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องลุ้น.