เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่ ศูนย์ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน ริมบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษากลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำ กลุ่ม นปช.ภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่ จ.ขอนแก่น ว่า ต้องขอโทษคนกรุงเทพฯ ที่วันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) รถจะติดตลอดแนว ถนนวิภาวดีรังสิต ตลอดทั้งขาเข้าและขาออก ช่วงบริเวณด้านหน้า สนามบินดอนเมือง ซึ่งจากการประสานงานร่วมเครือข่ายคนเสื้อแดง, กลุ่ม แนวร่วม นปช., กลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน และคนที่ชื่นชอบโดยส่วนตัวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล้วนต่างเตรียมเดินทางไปรอให้การต้อนรับ นายทักษิณ ที่สนามบินดอนเมือง โดยเฉพาะที่ขอนแก่น มีการนัดหมายการขึ้นรถโดยสารที่บริเวณหน้าสวนรัชดานุสรณ์ ตรงข้ามศาลากลาง จ.ขอนแก่น ในเวลา 20.00 น. วันนี้ เดินทางโดยรถเบื้องต้น 10 คัน และจะไปสมทบกับกลุ่มมวลชนที่เดินทางมาจังหวัดต่างๆ ทั้งโดยรถโดยสาร, รถตู้, รถยนต์ส่วนตัว, รถไฟหรือเครื่องบิน ที่บริเวณ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในเวลาประมาณ 03.00 น. และทั้งหมดจะเดินทางถึงสนามบินดอนเมือง ในเวลา 04.00 น. เพื่อเตรียมติดตั้งป้ายหรือจัดระบบการจอดรถ หรือการรอต้อนรับนายกรัฐมนตรีในดวงใจ ที่รอคอยวันนี้มานานกว่า 20 ปี

“ยืนยันว่าไม่เกินเวลา 12.00 น. ทุกคนจะเดินทางกลับ ซึ่งแม้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอีก แต่ทุกคนก็จะไปรอต้อนรับนายกรัฐมนตรีในดวงใจ ที่ทุกคนรอวันนี้มานานหลายสิบปี ดังนั้นต้องขอโทษขออภัยคนกรุงเทพฯ และผู้ที่ใช้บริการสนามบินดอนเมือง ที่จะเกิดปรากฏการณ์รถติดในวันพรุ่งนี้ หรือมีจำนวนคนที่หนาแน่นภายในสนามบินดอนเมืองมากขึ้น ซึ่งเฉพาะในกลุ่มของตนเองที่จะเดินทางไปคืนนี้ ไม่น้อยกว่า 3,000 คนแล้ว ซึ่งจากการพูดคุย หลายคนต่างยอมบรัว่าอาจจะไม่พบหรือได้เจอกับคุณทักษิณ หรือแม้คุณทักษิณ อาจจะมองไม่เห็นคนที่ไปรับทุกคน เพราะมีลำดับขั้นตอนต่างๆ อยู่แล้ว แต่ก็จะเป็นการแสดงพลัง ที่เป็นภาพแห่งความประทับใจ ความอบอุ่น ซึ่งกลุ่มมวลชนที่ไปรอรับจะอยู่ที่เฉพาะดอนเมืองเท่านั้น” ผศ.พรรณวดี กล่าว

ผศ.พรรณวดี กล่าวอีกว่า การที่หลายคนมองว่าเป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะกับการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น โดยส่วนตัวมองว่าจะเป็นความสำเร็จที่อบอุ่นใจของคนไทยทั้งประเทศ ในภาพที่เรากำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ที่รอมานานกว่า 3 เดือน ซึ่งพรรคเพื่อไทยชัดเจนแล้วว่าเป็นพรรคอันดับ 2 ที่ประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง เอาชนะใจตัวเอง และทำด้วยอุดมการณ์บนพื้นฐานประชาธิปไตย เพื่อมีรัฐบาลและแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน และมาจากประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นความรู้สึกและความเข้าใจของคนกว่า 10 ล้านคน จะเป็นกำแพงเหล็กให้กับพรรคเพื่อไทย ได้จัดตั้งรัฐบาลโดยสำเร็จ และการที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ประกาศลาออกนั้น โดยส่วนตัวมองว่าเป็นการต้องการที่จะพักผ่อนมากกว่าการน้อยใจ หรือการกระทำตามความคิดหรืออุดมการณ์ใดๆ เพราะงานการเมืองต้องเดินต่อไป งานสนับสนุนหรืองานมวลชน ก็ต้องก้าวต่อไปเช่นกัน จึงขอให้ทุกคนอย่าตีรวนหรือใช้วาทกรรมใดๆ จนกลายเป็นประเด็นจนไม่สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ และมั่นใจว่าวันพรุ่งนี้หุ้นขึ้นแน่.