เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ สน.สุทธิสาร พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 เดินทางมาประชุมติดตามคดี หนุ่มเมียนมา Mr.SAI MYAT MOE อายุ 19 สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3438/2566 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังก่อเหตุฆ่าอดีตเอกอัครราชทูตในบ้านพัก ต่อมา พล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยกับสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า ชุดสืบสวนได้ออกหมายจับผู้ต้องหาตั้งแต่เมื่อวานนี้ และจากการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาพบว่าได้เดินทางไป จ.เชียงราย วันที่ 28 ก.ย. ถึง จ.เชียงราย ในวันที่ 29 ก.ย. และเดินทางออกนอกประเทศผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในเวลา 07.12 น.

ออกหมายจับแล้ว! ‘หนุ่มเมียนมา’ หลักฐานมัด ฆ่าอดีตเอกอัครราชทูต

โดยไทม์ไลน์ของผู้ก่อเหตุพบว่าเดินทางไปที่บ้านพักของผู้เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. แล้วทั้ง 2 คนได้ออกจากบ้านช่วงเย็นวันเดียวกัน กลับมาที่บ้านช่วงค่ำ แต่วันเกิดเหตุวันที่ 27 ก.ย.ทั้ง 2 คน กลับมาที่บ้านประมาณ 21.00น. เชื่อว่าอาจมีปากเสียงทะเลาะกัน หลังก่อเหตุผู้ต้องหาเดินออกจากบ้านและไปขึ้นแท็กซี่หน้าหมู่บ้านในเวลาประมาณ 03.22 น. ของเช้ามืดวันที่ 28 ก.ย. และจากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้เสียชีวิตพบว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้ Ipad ของผู้ตายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารบุคคลอื่น 22,000 บาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าโอนเข้าบัญชีใคร และมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไจากการเอามือถือไปสแกนกดเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็มอีก2ครัังจำนวน 34,200บาท

เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ก่อเหตุลงมือเพียงคนเดียว และยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนความสัมพันธ์ของผู้ตายกับผู้ก่อเหตุจะเกี่ยวข้องกันอย่างไรอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ส่วนทรัพย์สินของผู้ตาย นอกเหนือจากโทรศัพท์มือถือและ Ipad เชื่อว่า ยังมีทรัพย์สินอื่น ๆ ของผู้ตายที่หายไปอีก แต่ขอตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะที่บ้านมีร่องรอยการถูกรื้อคน

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำว่าให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร่งด่วนเพราะผู้เสียชีวิตเป็นข้าราชการระดับสูง ซึ่งหลังจากนี้จะประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองออกหมายจับสากลและส่งไปประเทศต้นทางเพื่อประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดี

สำหรับไทมไล์การขึ้นรถหลบหนีของผู้ก่อเหตุ แนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุไป จ.นนทบุรี และวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อรอเวลาการกลับไปขึ้นรถ เนื่องจากรถรอบเช้าเสียจึงต้องขึ้นรถในรอบเย็น ซึ่งระหว่างที่อยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนรถแท็กซี่หลายคัน และมีการกดเงินจำนวน 30,000บาท โดยก่อนจะไป บขส. ผู้ก่อเหตุ เดินทางจากจ.นนทบุรี ไปที่ห้างแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ก่อนกดเงินอีกครั้ง 4,200 บาท จากนั้นขึ้นแท็กซี่คันสุดท้าย สีเขียว-เหลือง ไปขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิต ในเวลา 16.53น. และรถออกในเวลา 17.25 น. ซึ่งรถเดินทางออกจาก บสข. เป็นรถสาย กรุงเทพ-น่าน อยู่ระหว่าติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป