เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจากพระเอกฉลวย จันขัง อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดป่ามั่นเจริญบัวธรรม ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ประสานงานเรื่องการโอนโฉนดที่ดินจากชื่อพระเอกฉลวย เป็นโฉนดที่ดินวัด ตามที่ได้ยื่นเรื่องไว้กับสำนักงานที่ดินสาขาบางบัวทอง ซึ่งพระเอกฉลวย จำเสียงของมิจฉาชีพได้ ว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เคยโทรมาหลอก ว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จนเสียรู้โอนเงินในบัญชีของวัดไปให้เกือบ 150,000 บาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงออกมาร้องสื่อมวลชนเป็นอุทาหรณ์และเตือนภัย

พระเอกฉลวย กล่าวว่า ภายหลังได้รับอนุมัติให้เป็นวัด จึงตั้งใจจะโอนที่ดินให้เป็นที่ของพระอาจารย์ โอนให้มาเป็นชื่อวัด รวม 9 โฉนด เขตพื้นที่บางบัวทอง ซึ่งทำเรื่องส่งไปตั้งแต่ปี 2565 แล้งเงียบหายไป แต่อยู่ๆก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาติดต่อเรื่องที่ดิน ซึ่งทีแรกคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ แต่กลับกลายเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดนดูดเงินไป 1 แสน 4 หมื่นบาท เมื่อประมาณปี 2565 ซึ่งได้ไปแจ้งความไว้แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรก็ได้แต่คิดว่าคงไม่ได้เงินคืนมาแล้ว

พระเอกฉลวย กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อวานนี้(20 ต.ค.) มีโทรศัพท์เข้ามาเป็นเสียงผู้หญิง จำเสียงได้ว่าเป็นคนเดิมที่เคยโทรมาหลอกเมื่อปี 2565 จึงได้อัดคลิปเสียงไว้ คาดว่าน่าจะได้เบอร์ติดต่อและข้อมูลมาใหม่แล้วคงจำไม่ได้ว่าเคยโทรมาหลอกเงินไป 1 ครั้งแล้ว คงตั้งใจมาหลอกอีก ซึ่งจำได้แน่นอน จึงได้ปฏิเสธไปว่าไม่ว่างกำลังบวชพระอยู่ให้โทรกลับมาใหม่ภายหลัง หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อกลับมาอีกครั้ง สอบถามเรื่องที่ดินแบบเดิม จึงไม่อยากสนทนาด้วย

เจ้าอาวาสวัดป่ามั่นเจริญบัวธรรม กล่าวว่า อยากให้กรมที่ดินบางบัวทอง ดำเนินการเรื่องที่ดินของวัดให้เสร็จสิ้นจะได้ไม่ต้องมาระแวงถูกหลอกอีก เพราะเดินเรื่องไปตั้งแต่เมื่อปี 2565 ตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จ ซึ่งทางกรมที่ดินได้ส่งเรื่องไปที่อำเภอ ทางอำเภอได้มาสอบสวนเกี่ยวกับที่ไปที่มาของที่ดินแล้ว แต่หลังจากนั้นก็มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้โทรมาจึงทำให้หลงเชื่อ แต่เรื่องที่ดินก็ยังไม่เสร็จ กระทั่งมีการโทรมาอีกครั้งที่ 2 ชวนพูดคุยเรื่องที่ดินเหมือนเดิม แต่โชคดีที่จำเสียงได้ จึงได้พยายามพูดหว่านล้อมให้มิจฉาชีพติดต่อกลับมาอีกครั้ง และไปแจ้งตำรวจแต่คงทำอะไรไม่ได้มาก จึงมาร้องผู้สื่อข่าวเป็นอุทาหรณ์ และเตือนประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อต่อไป