เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศหน้ากระทรวงพลังงาน บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เริ่มมีกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารร่วมบริการสาธารณะ นำโดย กลุ่มรถตู้ต่างจังหวัด ผู้ประกอบการรถรถตู้ รถมินิบัส รถเมล์ รถโดยสาร และรถสองแถว ทยอยนำรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ไปจอดหน้ากระทรวงพลังงาน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เบื้องต้นทางผู้ประกอบการแจ้งว่า จะมีรถมาร่วมหลายร้อยคัน นัดกันเวลา 09.00 น. เพื่อขอเข้าพบ พร้อมยื่นหนังสือถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ยื่นหนังสือแจ้งความเดือดร้อนราคาค่าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ

เนื่องจากผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารสาธารณะ ได้รับผลกระทบเรื่องราคาก๊าซเอ็นจีวีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าภาครัฐจะมีนโยบายการปรับเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนพาหนะที่ใช้ในการโดยสารผู้คน ซึ่งในที่นี้คือกลุ่มรถโดยสารประจำทางในแต่ละพื้นที่ ยังไม่ได้มีมาตรการใดที่สามารถช่วยเหลือเยียวยากลุ่มรถโดยสารสาธารณะร่วมประจำทางในแต่ละหมวดได้ อีกทั้ง การออกนโยบายช่วยเหลือล่าสุดของการทำบัตรส่วนลดค่าก๊าซเอ็นจีวีที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนระบบรถยนต์ในปัจจุบัน ยังคงมีแต่ประกาศ ยังไม่สามารถนำมาใช้ได้กับสภาวะปัจจุบัน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับหมวดรถโดยสาร และแบ่งแยกประเภทของรถโดยสารออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน

ทางกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารร่วมบริการสาธารณะ ขอเข้าพบเพื่อพิจารณาเร่งด่วนจำนวน 4 ข้อ ดังนี้ 1.ขอให้ราคาก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ 12.74 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ 2.ขอให้ขยายระยะเวลา ของการใช้บัตรส่วนลดฯ เพิ่มเติมอีก 2 ปี 3.ขอให้ยกเลิกการกำหนดปริมาณการเติมก๊าซเอ็นจีวีที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน และ 4.ขอให้มีบัตรส่วนลดค่าเชื้อเพลิงที่ใช้น้ำมันดีเซล ของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ

ด้วยผลกระทบของค่าเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้น ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น โดยไม่มีมาตรการรองรับจากหน่วยงานใดๆ มาช่วยเหลือเยียวยา กลุ่มผู้ประกอบการเข้าพบเป็นการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นทางกระทรวงฯ ทราบแล้วว่า ทางกลุ่มผู้ประกอบการจะเดินทางมาพบ ได้เตรียมความพร้อมจัดจราจรเข้ากระทรวงพลังงานใหม่ โดยปิดช่องทางเข้า-ออกบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต และจะส่งผู้แทนกระทรวงพลังงาน มารับมอบแทนนายพีระพันธุ์ ที่ติดภารกิจกับนายกรัฐมนตรี และปกตินายพีระพันธุ์ จะนั่งทำงานที่บ้านพิบูลธรรม ที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ย่านถนนพระรามที่ 1 ซึ่งทางผู้ประกอบการทราบแล้ว แต่เกรงว่าถ้าจะไปย่านนั้นการจราจรติดอย่างสาหัส เพราะบริเวณนั้นมีพื้นที่น้อย.