กลายเป็นประเด็นดราม่าที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์” ผู้ประกาศข่าวช่องดัง ได้โพสต์ข้อความบนเพจ Off Chainon โดยระบุว่า “มีบางคน คิดว่าเพจ Off Chainon คือการก๊อบข่าวมาลง ย้ำสั้นๆ ตรงนี้ มันคือการ “สรุปข่าว” น้องๆ ในทีมจะรีไรท์ใหม่ เขียนใหม่ด้วยตัวเอง แต่ใส่ลิงก์สำนักข่าวต่างๆ เผื่อใครชอบอ่านยาวๆ ถ้าได้ตามอ่านจริงๆ จะรู้ ขอบคุณครับ” ทำให้เป็นที่วิจารณ์อย่างมาก คนข่าวภาคสนามอย่าง “จตุรงค์ สุขเอียด” อดีต บก.ข่าวไอทีวี ก็ได้ออกมาพูดถึงประเด็นที่เกิดขึ้นด้วย
-“จตุรงค์” ลั่น “ก๊อบข่าวผมไม่ทำอาย” ติงเป็นนักข่าวต้องลงสนาม
ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pornthip Morngyai นักข่าวภาคสนามของช่อง Workpoint 23 ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอีกเสียงสะท้อนจากนักข่าวภาคสนาม โดยระบุข้อความว่า “ขออนุญาต ใช้พื้นที่บอกผู้ประกาศบางคน ที่ไม่ได้มีประสบการณ์ภาคสนาม อย่าหาว่าพี่สอน ก่อนอื่นกว่าที่นักข่าวแต่ละคนจะได้ข่าวมา มันต้องลงทุนอะไรบ้าง
ตื่นเช้า นั่งรถ ค่าน้ำมัน ใช้อุปกรณ์ บางครั้งต้องเฝ้ารอเป็นวันกว่าจะได้ข่าว บางวันต้องไปยืนตากแดด ตากฝน รมควันบุหรี่ เดินทางบางทีต้องไป ตจว. ไปกลับ 100-300 กม. ก็ต้องไป บางวันต้องไปเฝ้าตั้งแต่เช้ามืด รอเป็นชั่วโมง ได้สัมภาษณ์มาไม่ถึง 3 นาที แต่เป็นประเด็นข่าวได้
พวกเรานักข่าวภาคสนามรับเงินเดือน ทำงานรายวัน วันหนึ่ง 8-12 ชม. แล้วแต่ช่วงสถานการณ์ กินข้าวไม่เป็นเวลา ต้องออกแบบหน้างานแต่ละวัน แล้วอยู่ๆ วันหนึ่งหรือหลายครั้ง ที่เราง่วนกับพิมพ์ข่าวส่งสถานีในแต่ละแพลตฟอร์ม แน่นอนใช้เวลาหลาย ชม. เราก็รีบทำให้เร็วที่สุด กลับมีผู้ประกาศมาเอาภาพหรือเอาข่าวเราไปใช้ โดยที่ตัวนั่งในห้องแอร์ ใช้แค่ปลายนิ้วกระดิกเมาท์ และปลายสมองดัดแปลงบทข่าวเราแล้วบอกว่าสรุปข่าว ทั้งที่มันอ่านแล้วก็ไม่ได้สรุป
จะทำให้พวกเรารู้สึกอย่างไร ภูมิใจเหรอที่มีคนมาเอาข่าวและภาพเราไป แล้วพวกเราภาคสนามไม่ได้อะไรเลย แต่คุณได้ทั้งยอด ได้รายได้ ได้ชื่อเสียง ทั้งๆที่รายได้จากผู้ประกาศ ก็มากกว่าทีมสนาม 3-5 เท่าอยู่แล้ว
ขอถามกลับ มีจิตสำนึกกับจริยธรรมตามหลักสื่อสารมวลชนบ้างไหมหรือไม่ได้เรียนมา เปิดหาอ่านได้ในกูเกิลนะ ขณะที่ทีมภาคสนามหลายคนต้องนั่งรถเมล์ แว้นมอไซค์ไปทำข่าว แต่คุณขับรถหรูไปนั่งสตูดิโอ แต่งหน้าจัดแล้วบอกว่า ตนเองคือคนข่าว
*ถ้าคุณคิดว่าคุณประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ตัวเอง จงจำไว้ คุณคือแบรนด์ก็อปปี้เกรดเอ แต่คุณไม่ใช่ตัวจริงของวงการ อย่าให้ต้องถามไปที่สังกัดคุณ การให้โอกาสคุณมาอยู่หน้าจอ ได้คำนึงหลักจริยธรรมสื่อหรือไม่ เพราะสังคมปัจจุบันการดำเนินธุรกิจ ต้องคำนึงจริยธรรมต่อสังคมด้วย”
ขอบคุณข้อมูล-ภาพ Pornthip Morngyai
